FIFA World Cup 2022! Stories Beyond the “Home-Away kit“ !

หลังจากเวียนผ่านมานานถึง 4 ปี กิจกรรมที่ชวนให้ชาวสะสมคิดถึง (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) เห็นทีคงไม่พ้น “การนั่งดูบอลโลก” แน่นอนว่าสำหรับแฟนๆ บอล ช่วงนี้อาจตั้งหน้าตาตารอดู จนตัวติดกับจอทีวีอยู่บ่อยๆ เพื่อหวังจะได้เชียร์ทีมในฝันของตนเองในศึก FIFA World Cup Qatar 2022™ แต่อย่างไรก็ตามนอกจาก อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันในช่วงบอลโลกก็คือ เสื้อของแต่ละทีมชาติ เพราะนานๆ ทีจัดครั้งหนึ่ง ทุกชาติต่างก็ร่วมมือกับแบรนด์กีฬาเพื่อสร้างผลงานที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่ผลงานด้านการกีฬา หากแต่เป็นผลงานด้านศิลปะด้วย วันนี้ SASOM ขอพาทุกคนไปพูดคุยถึง เสื้อเหย้า-เสื้อเยือนของแต่ละทีมชาติกันสักหน่อย บอกเลยว่าเนื้อหาดี ความรู้แน่นเปรี๊ยะ!

ทำไมเสื้อบอลโลกจึงสำคัญ?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการแข่งขัน FIFA World Cup หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า บอลโลก นั้นถ่ายทอดออกอากาศไปหลายประเทศทั่วโลก และเวียนวนมาในทุกๆ 4 ปี การได้พื้นที่สาธารณะที่เผยแพร่ไปทั่วโลก เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของประเทศตนเองก็เป็นไอเดียที่ดีไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทีมชาติของตนได้เข้าไปในลีคลึกขึ้นเรื่อยๆ (เช่น 8 ทีมสุดท้าย) หรือชนะฟุตบอลโลกขึ้นมา ก็รับประกันได้ว่าประเทศของตนย่อมได้ชื่อเสียงมากขึ้นแน่นอน แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ ระหว่างทางจะต้องนำเสนอประเทศยังไงให้คนรู้จักตั้งแต่แรกเห็น? จะให้นักบอลวิ่งถือป้ายก็คงไม่ใช่ จุดขายจึงตกมาอยู่ที่ “เสื้อบอลโลก” ด้วยเหตุนี้ ประเทศต่างๆ จึงพยายามขุดจุดเด่น เอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนมาผลักดัน Soft Power ส่วนนี้กันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ซึ่งในวันนี้ เราได้รวบรวมเบื้องลึกเบื้องหลังของเสื้อเย้า-เสื้อเยือนของเสื้อทีมชาติแต่ละประเทศมาให้ ต้องขอการันตีเลยว่า เด็ดจริงทั้งคอนเซ็ปต์และงานออกแบบ!

ลอยล่องไปกับเครื่องบินกระดาษจากแดนปลาดิบ - ทีมชาติญี่ปุ่น

แน่นอนว่าเป็นตัวเต็งตัวตึงสำหรับทีมชาติฟุตบอลโลกประจำปี 2022 เพราะเอาชนะอินทรีเหล็กไปเมื่อวันก่อน ทั้งโลกก็พร้อมจะฮือฮากันทั่ว นอกจากฝีมือการครองบอลและกันบอลที่แสนจะเฉียบขาดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึง เห็นทีก็คงไม่ได้กับ เสื้อเหย้า-เสื้อเยือน ของทีมชาติญี่ปุ่นที่ยังคงคีพคอนเซ็ปต์แฟชั่นสไตล์นิปปอนได้อย่างอยู่หมัด โดยเสื้อเหย้านั้นจะเป็นเสื้อสีน้ำเงินสว่างตา พิมพ์ลายทั่วทั้งตัวเสื้อด้วยศิลปะการพับกระดาษของประเทศญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า โอริกามิ แน่นอนว่ามองเพียบแวบเดียวก็พอทำให้หลายคนนึกถึงงาน AFC Asian Cup ซึ่งญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมและจัดขึ้นที่การ์ตาเช่นกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับโลโก้ของ adidas และสมาคมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น (JFA) ประดับอยู่บนหน้าอกทั้งสองข้าง ส่วนเสื้อเยือนนั้นก็ยังคงคีพคอนเซ็ปต์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเสื้อทีมเหย้า โดยจะมาในโทนสีขาวสะอาดตา ปักด้วยแถบสีน้ำเงินกรมท่าบริเวณไหล่และแขนเสื้อทั้งสองข้าง มาพร้อมกับเครื่องบินกระดาษสีน้ำเงิน-cf’ตามฉบับศิลปะแบบโอริกามิเช่นเคย บอกเลยว่าเรื่องงานดีไซน์แบบมินิมอลลิสต์ ญี่ปุ่นนี่เขาไม่แพ้ใครจริงๆ

แดงเดือดสไตล์โคชูจัง - ทีมชาติเกาหลีใต้

อีกหนึ่งทีมตัวตึงตัวเต็งของทวีปเอเชีย ถ้าพูดถึงแดนปลาดิบไปแล้ว จะไม่พูดถึงแดนกิมจิก็คงไม่ได้ นั่นก็คือ ทีมชาติเกาหลีใต้ เพราะล่าสุดพึ่งเฉือนเอาชนะทีมชาติโปรตุเกสไปได้อย่างสุดพลัง แน่นอนว่าเป็นอีกเครื่องพิสูจน์ได้ว่าพัฒนาการของทีมฟุตบอลของชาติฝั่งตะวันออกก็เริ่มมาแรงแซงโค้งแล้วเหมือนกัน นอกจากนี้ ถ้าพูดถึงแฟชั่นและการออกแบบของเกาหลีใต้ ก็คงไม่มีใครอาจหาญปฏิเสธได้ว่า มันไม่โด่งดัง เพราะปัจจุบันนี้ทุกคนต่างก็รู้จักแฟชั่นเกาหลีกันทั้งนั้น เช่นเดียวกันกับเสื้อเจอร์ซีของทีมชาติเกาหลีที่เป็นได้มากกว่างานดีไซน์ธรรมดาทั่วไป โดยส่วนของเสื้อเหย้านั้นจะมาในโทนสีดำสนิท ประดับประดาด้วยเส้นสีแดง สีน้ำเงิน และเหลือง ชวนให้เรานึกถึงดอกไม้ไฟและศิลปะแบบ Abstact สไตล์เกาหลี อีกทั้งยังชวนให้เรานึกถึงบรรยากาศยุค 90 รวมถึงสีน้ำเงินและสีแดงยังสื่อถึง Taegeuk ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตรงกลางของธงชาติเกาหลีอันมีความหมายถึงสมดุลระหว่างโลกและสวรรค์ ส่วนเสื้อเยือนที่เราเห็นในศึกล่าสุดนั้นจะมาในโทนสีที่แตกต่างกันอย่างลิบลับ เพราะจะมาในสีแดงสดเตะตา แม้จะมาในโทนสีสุดร้อนแรง แต่ยังคงคีพความเรียบหรูได้ในสไตล์มินิมอล ซึ่งมาพร้อมปกสีดำดีไซน์มาในรูปแบบแถบผ้า สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นสีแดง ก็ตอบได้ทันทีเลยว่าเพราะ Red Devils เป็นฉายาและชื่อแฟนคลับของทีมชาติเกาหลีใต้นั่นเอง

มรดกลายพิมพ์แฟชั่นแห่งยุคกลาง - ทีมชาติฝรั่งเศส

ต่อกันที่แชมป์เก่าจากศึกฟุตบอลโลก 2018 อย่างฝรั่งเศสกันบ้างดีกว่า แม้ตอนนี้จะยังไม่มีอะไรเดือดมากนัก แต่ก็ไม่มีสิ่งใดการันตีได้ว่า ศึกครั้งนี้แดนน้ำหอมจะรักษาตำแหน่งแชมป์ได้หรือไม่ ทว่าสิ่งหนึ่งที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ นั่นก็คือ เสื้อเหย้า-เสื้อเยือน ของทีมชาติฝรั่งเศสที่เห็นปั้บก็ชวนนึกถึง Allez les Bleus ขึ้นมาทันที สำหรับเสื้อเหย้านั้นจะมาในโทนสีสุดเรียบหรูตามฉบับแฟชั่นปารีเซียง ถึงแม้จะเป็นเสื้อบอล แต่ก็ยังถ่ายทอดดีไซน์ได้สวยหรูอยู่หมัด มาในโทนสีกรมท่าตัดสลับกับสัญลักษณ์สามอันบนหน้าอกของเสื้อ ได้แก่ ตรา FIFA,โลโก้ Nike และตรารูปไก่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทีมชาติฝรั่งเศส ส่วนรายละเอียดของเสื้อเยือนนั้นก็สร้างความประทับใจให้กับชาวโลกไม่ใช่น้อย เพราะไม่เพียงแค่เป็นดีไซน์ที่ใช้ในงานฟุตบอลโลก หากแต่ยังสื่อถึงประวัติศาสตร์และศิลปะด้านแฟชั่นการตัดเย็บที่มีมาอย่างยาวนานด้วย โดยเสื้อเยือนนั้นหากดูไกลๆ จะมาในโทนสีขาวสะอาดตา แต่หากมองใกล้ๆ จะเห็นแพทเทิร์นผ้าแบบ Toile de Jouy ซึ่งเป็นการพิมพ์ลายผ้าที่นิยมใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคกลาง และหลายคนอาจจะตาดีว่าเหมือนเคยเห็นเทคนิคนี้มาจากที่ไหนกันนะ คำตอบก็คือ คอลเลคชันพิเศษของ Dior นั่นเอง ซึ่งจะเป็นตัวกระเป๋าถือพร้อมพิมพ์ลายผ้าด้วยเทคนิคนี้เป็นรูปสรรพสัตว์! ยิ่งไปกว่านั้น ดังที่รู้กันว่ามักเอาไปใส่แข่งนอกประเทศ แดนน้ำหอมก็ยังไม่วายใช้ลายพิมพ์ผ้านี้เผยแพร่เรื่องราวประวัติศาสตร์วัฒนธรรม โดยเสื้อเยือนสีขาวนี้จะทำพิมพ์ลายด้วยฉากการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งถือได้ว่าเป็นอะไรที่ไอคอนิคมากๆ หากพูดถึงแดนน้ำหอม แหม… งานดีไซน์นี้ไม่มีใครยอมใครกันเลย

ดุดันราชันย์แห่งป่าอเมซอน - ทีมชาติบราซิล

เปลี่ยนจากทวีปยุโรปมาดูฝั่งอเมริกาใต้กันบ้างกับตัวตึงแห่งป่าอเมซอนอย่าง บราซิล ที่ครั้งนี้ปรับเปลี่ยนเสื้อเจอร์ซีให้มีความเป็นตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะมาพร้อมกับลีลาการครองบอลที่ดุดันมากขึ้นกว่าเดิม โดยครั้งนี้ เสื้อทีมเหย้านั้นจะมาในโทนสีเหลืองเลมอนสะดุดตา รับประกันว่ามองเห็นได้ในระยะสองร้อยเมตรเลยทีเดียว มาพร้อมกับปกเสื้อแบบ Hanley ที่มีกระดุมอันจิ๋วติดอยู่ด้วย นอกจากนี้ เสื้อเหย้าของทีมชาติบราซิลยังมาพร้อมกับลายแพทเทิร์นสีเขียวสุดแสนจะเท่ โดยจะทำเป็นลายของจุดของเสือจาร์กัว ซึ่งเป็นสัตว์ที่พบเจอได้ในป่าอเมซอนและทวีปอเมริกาใต้ และยังขึ้นชื่อว่าเป็น เจ้าแห่งความเร็วอีกด้วย และสำหรับเสื้อเยือนแม้จะไม่สว่างเตะตาเท่ากับเสื้อเหย้า แต่ก็ยังมิกซ์แอนด์แมตช์โทนสีได้อย่างลงตัว โดยจะผสมผสานระหว่างเสื้อสีน้ำเงินสว่างตาและสีเขียวนีออนสุดว้าว และแน่นอนว่าบริวเณแขนเสื้อยังคงทำเป็นลายเสือจาร์กัวเช่นเคย ใครเป็น FC แดนอเมซอนต้องหลงรักชัวร์เลย!

เรียบหรูผู้ดี - ทีมชาติอังกฤษ

ส่งท้ายด้วยการวนกลับมายังทวีปยุโรปกันสักหน่อย กับประเทศที่ได้รับสมญานามว่า “แดนผู้ดี” อย่างอังกฤษ ขอบอกเลยว่าการกลับมาในสมรภูมิฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้สร้างความตราตรึงใจให้แก่แฟนๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อเจอร์ซีของทีมชาตินี้ที่บอกเลยว่า ทั้งเหย้า-เยือน ของเขาดีไม่มีแผ่ว เริ่มกันที่เสื้อเหย้ากันก่อนเลยที่จะเป็นเสื้อสีขาวสะอาดตา ตกแต่งช่วงไหล่ในโทนสีแบบไล่เฉด ไล่ Gradient จากสีน้ำเงินสู่สีฟ้า มาพร้อมกับโลโก้สิงโตสามตัวบริเวณอกด้านซ้าย ส่วนทางฝั่งของเสื้อเยือนจะมาในคอนเซ็ปต์สีแดงแรงฤทธิ์พร้อมกับตราสิงโตสามตัวบริเวณอกด้านซ้ายเช่นกัน เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วจะพบว่าดีไซน์นี้คล้ายคลึง Blue Void ในเสื้อปี 1998 ที่ David Beckham และ Paul Scholes ชอบใส่ และที่สำคัญ เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าคู่สีแดง-น้ำเงินนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวจริงๆ สำหรับเสื้อทีมชาติอังกฤษนี้