Stories behind the house of “Gucci”

จากวันนั้นถึงวันนี้! เปิดเรื่องเล่าของ Gucci ก่อนขึ้นปี 2023

28/12/2022

...

หากจะเอ่ยถึงลักชัวรี่แบรนด์หรือแฟชั่น Hi-end ระดับโลก ชื่อแบรนด์ที่จะตกหล่นไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ “Gucci หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า กุชชี่” นั่นเอง โดยกุชชี่เป็นแบรนด์สัญชาติอิตาลี ที่แม้ว่าจะเริ่มต้นมาจากการวางขายอุปกรณ์ขี่ม้าแบบ Handmadeแต่ปัจจุบันกุชชี่ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยไลน์การผลิตสินค้าออกมาอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เครื่องประดับ รองเท้า และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ทุกคนทั่วมุมโลกได้เห็นแล้วว่าแบรนด์ Gucci เป็นมากกว่าแค่กระเป๋าถือ หากแต่ยังเป็นตำนานของโลกแฟชั่นที่ได้รับความนิยมมายาวนานถึง 100 ปี ด้วย

...
จากพนักงานกระเป๋าสู่เจ้าของตำนาน “Guccio Gucci”

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Gucci นั้นได้เริ่มจุดประกายมาจากกุชชิโอ กุชชี่ (Guccio Gucci) นักธุรกิจหรือดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน โดยเริ่มขึ้นในปลายทศวรรษ 1890 โดย ณ เวลานั้น Guccio Gucci เป็นเพียงพนักงานยกกระเป๋าของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงปารีสและลอนดอนเท่านั้น  แต่การที่เขาได้ทำอาชีพนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของการได้พบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตาจากทั่วทุกมุมโลกและได้คลุกคลีอยู่กับกระเป๋าอันหรูหรามากมาย  ทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ กระเป๋าผู้ชาย หรือแม้แต่กระเป๋าผู้หญิง ทุกใบก็ล้วนแต่มีดีไซน์สวยงามแปลกตา นั่นจึงทำให้เขาได้รับแรงบันดาลใจและตัดสินใจลาออก พร้อมเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด แล้วผันตัวมาทำงานกับ Franzi แบรนด์กระเป๋าเดินทางและเครื่องประดับ และหลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาได้สักระยะ กุชชิโอ กุชชี่ จึงได้เริ่มออกมาทำแบรนด์ของตนเองในที่ท้ายสุด

เส้นทางเริ่มต้นของ Gucci

Gucci ได้เปิด The House Of Gucci ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1921 ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี โดยในช่วงแรกจะเน้นผลิตสินค้าของกุชชี่ที่เน้นไปทางอุปกรณ์ขี่ม้า อานม้า กระเป๋าหนังและอุปกรณ์อื่นๆ สำหรับนักขี่ม้าแบบ Handmadeสินค้าทุกชิ้นจะผลิตจากวัสดุหนังของอิตาลีที่มีคุณภาพสูง จึงดึงดูดใจให้ชนชั้นสูงชาวยุโรปหันมาสนใจสินค้าจากกุชชี่กันอย่างล้นหลาม จนย่างเข้าสู่ช่วง ค.ศ.1930 ซึ่งมีการประกาศคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจกับอิตาลี ทำให้กุชชี่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าวัสดุหนัง จึงจำเป็นต้องพยายามหาทางสร้างสรรค์สินค้าใหม่ จนพบวิธีที่สร้างสรรค์และทันสมัยโดยการนำป่านทอมาออกแบบเป็นแถบผ้าทอสีแดงและสีเขียว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากดีเทลในการผลิตอานม้า และจากการรังสรรค์นีเอง จึงกลายมาเป็นลวดลายที่เราคุ้นชินตากันดีในทุกวันนี้ จนทำให้ใครๆ เห็นก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือแบรนด์ของ Gucci นั่นเอง

Gucci ได้เป็นที่กล่าวขาน “ภายในชั่วข้ามคืน”

คอลเลคชันที่ทำให้กระเป๋ากุชชี่ได้กลายเป็นที่รู้จักภายในชั่วข้ามคืนนั่นก็คือ “Bamboo Bag” ซึ่งเป็นกระเป๋าที่ประดับหูจับด้วยไม้ไผ่ญี่ปุ่น กุชชี่ได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากรูปทรงของอานม้า ซึ่งในเวลาต่อมาหูจับไม้ไผ่นี้ก็ได้กลายเป็นไอคอนเอกลักษณ์ประจำแบรนด์กระเป๋ากุชชี่ตามมา แถมยังได้รับความนิยมจนมาถึงปัจจุบันอีกด้วย สาเหตุหลักที่ทำให้กระเป๋ากุชชี่คอลเลคชันนี้ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก นั่นก็เพราะว่า กระเป๋าถือ Bamboo Bag ได้ไปปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง “Viaggio in Italia” ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์อันโด่งดังของโรแบร์โต รอสเซลลีนี  (Roberto Rossellini) จึงทำให้บรรดาดาราฮอลลีวูดไปจนถึงราชวงศ์ยุโรปให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนสามารถเปิดสาขาใหม่ที่อเมริกาได้เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีไอเทมกุชชี่อีกหลายคอลเลคชันที่ได้กลายเป็นส่วนเติมเต็มในหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่น ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า หรือแม้แต่เครื่องประดับต่างๆ  บางไอเทมได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่วันเปิดตัว หรือบางอย่างก็ได้รับความนิยมถึงแม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษแล้วก็ตาม วันนี้ SASOM จึงจะชวนทุกคนมาอ่านกันดีกว่าว่า จะมีไอเทมกุชชี่อันไหนหรือกระเป๋าที่กลายเป็น It-Bag แห่งยุคกันบ้าง รวมถึงคอลเลคชันที่กุชชี่ collaborations กับแบรนด์ต่างๆ ที่พลาดไม่ได้ หากมีไว้ไม่ขาดทุนแน่นอน! ตามมาอ่านกันได้เลย

วินเทจแบบโมเดิร์น - Gucci 1955 Horsebit

ถ้าจะให้พูดถึงกระเป๋า It Bag หรือกระเป๋าที่ควรค่าแก่การครอบครองอีกหนึ่งใบประจำซีซั่นนี้ ก็ต้องยกให้กับ Gucci 1955 Horsebit Bag ที่กลับมาครองบัลลังก์ชื่อเสียงอีกครั้งหลังจากปรากฏอยู่บนรันเวย์ Gucci Cruise 2020 นำเสนอโดย Alessandro Michele สำหรับกระเป๋ากุชชี่คอลเลคชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากจากนักขี่ม้า พร้อมนำมาผสมผสานกับดีไซน์ที่ทันสมัยแต่ยังคงกลิ่นอายของความดั้งเดิมอยู่ โดยดีไซน์จะโดดเด่นที่วงแหวนและบาร์คู่บนกระเป๋า ซึ่งมีรูปทรงสะพายข้างเหมือนสมัยที่เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อ 60 ปีที่แล้วนั่นเอง

เทพไวน์สู่ใบกระเป๋า - Gucci Dionysus

ต่อด้วยกระเป๋ากุชชี่ที่ได้ถูกออกแบบหลังจากเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์อย่าง อเลสซานโดร มิเคเล เขาได้ออกแบบคอลเลคชันกระเป๋ากุชชี่ใบแรกโดยมีชื่อว่า “Gucci Dionysus” หรือภาษาไทยเรียกว่า ไดโอนีซุส ที่ใครหลาย คนต้องเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างเพราะเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ดังมากๆ แถมยังทำยอดขายถล่มทลายให้กับกุชชี่ในยุคนั้นเลยทีเดียวและยังคงนิยมมาจนถึงปัจจุบัน โดยคอลเลคชันนี้ได้แรงบันดาลใจตามชื่อของกระเป๋า นั่นก็คือ Dionysus เทพแห่งไวน์ตามปกรณัมกรีก ผู้มีเสือเป็นพาหนะ การออกแบบของตัวกระเป๋านี้จะเป็นงานพิมพ์สัญลักษณ์ Gucci ลงบนผ้าใบแคนวาส หัวเข็มขัดเป็นลายเสือ และมีโซ่สะพายหนาขนาดใหญ่ โดยสายโซ่สามารถปรับเป็นสะพายข้างหรือสะพายไหล่ได้ตามต้องการ

แฟชั่นและการกีฬา - Gazelle Gucci

สนีกเกอร์ Gazelle ดีไซน์สนุกสีแมตช์ได้ทุกลุคต้องยกให้คอลเลคชันนี้ Adidas x Gucci ซึ่ง เป็นการนำเสนอเอกลักษณ์ของแบรนด์กุชชี่ผสมผสานกับแบรนด์ชุดกีฬาอันเลื่องชื่ออย่าง Adidas จนเกิดลุคไฮบริดในรูปแบบของรองเท้าผ้าใบแคนวาส GG Gazelle โดยใช้แถบสีขาวสามแถบ รวมถึงโมโนแกรมลาย GG ที่ผสมรวมกับสัญลักษณ์ Trefoil ด้วยแรงบันดาลใจจากความทรงจำในยุค 80 และ 90 ของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์นั่นเอง บอกเลยว่าไฮไลท์สุดๆ ใครเป็นสาวกของสองแบรนด์นี้ห้ามพลาด!

ของแท้ที่แลดูเหมือนปลอม - Balenciaga x Gucci Hacker

มาถึงไอเทมสุดท้าย สะเทือนทั้งวงการแฟชั่น! เมื่อ กุชชี่(Gucci) ได้จับมือกับ บาเลนเซียก้า(Balenciaga) ภายใต้คอลเลคชัน “The Hacker Project” เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของกุชชี่นั่นเอง และจุดเริ่มต้นของไอเดียกระเป๋าถือผ้าแคนวาสทรง Tote Bag ใบนี้นั่นก็คือ การที่พวกเขาออกแบบไอเทมคล้าย “ของปลอม” ที่เป็นสิ่ง “ถูกกฎหมาย” ด้วยลายกราฟิก “This is not a Gucci bag” ซึ่งแปลว่า “นี่ไม่ใช่กระเป๋ากุชชี่” และยัง Hack สัญลักษณ์ของกุชชี่จาก GG เป็น BB อีกด้วย บอกเลยว่าสายแฟห้ามพลาด! โดยดีไซน์นี้จะเป็น Unisex กระเป๋าผู้ชายหรือกระเป๋าผู้หญิงก็ได้ ใครถือก็เท่แบบสุดๆ ไปเลย

สรุป

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของแบรนด์กุชชี่(Gucci) ที่ผ่านอะไรมามากมายจนคนทุกทั่วมุมโลกต้องยอมรับแล้วว่า “Gucci คือแบรนด์ระดับโลกที่เป็นมากกว่ากระเป๋า” การันตีด้วยยอดขายเมื่อในปี 2021 ที่ผ่านมา Gucci มีรายรับเพิ่มขึ้นเป็น 17.7 พันล้านยูโร เป็นการสร้างรายได้ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม บอกเลยว่าอะไรก็ต้านเขาไม่อยู่จริงๆ