Women’ve no wrong

"ไม่มีผิด" ถึงเวลาทลายกรอบยุคเก่า สร้างแฟชั่นยุคใหม่ในวันสตรีสากล

08/03/2022

...
"Elegance is when the inside is as beautiful as the outside.” - Coco Chanel

ดังที่ทราบกันดีว่า วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี ทุกประเทศทั่วโลกพร้อมทั้งองค์การสหประชาชาติ จะนับว่าเป็นวัน International Women's Day หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า “วันสตรีสากล”  เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้หญิงทั้งหลายที่ยอมอุทิศตนต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของพวกเธอเอง และเป็นไฟส่องทางให้ปุถุชนรุ่นหลังรำลึกว่า “ผู้หญิงนั้นก็เป็นคน มีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน มิได้แตกต่างจากผู้ชาย”  นอกจากนี้ ในแต่ละปีก็จะมีธีมงานแตกต่างกันออกไป ซึ่งปี 2022 นี้จะมาในธีม “ความเท่าเทียมกันทางเพศในวันนี้ สู่วันข้างหน้าที่ยั่งยืน (Gender equality today for a sustainable tomorrow) ”

วันนี้ SASOM (สะสม) ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เป็นดั่งที่ตัวเองหวังไว้ นอกจากนี้ เรา หรือ สะสมก็จะพาทุกคนไปฉีกภาพเก่า ทำลายขนบเดิมๆ ที่สังคมพยายามตีกรอบเรื่องการแต่งตัวของผู้หญิงให้ “เป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้” ไม่สิ ไม่ใช่เพียงผู้หญิงเท่านั้น หากแต่เป็นกรอบที่พยายามกำหนดทุกเพศต่างหาก...

...
ผู้หญิง + ส้นสูง = ความงามที่แท้ทรู ? (Heels are not the true beauty)

รองเท้าส้นสูงต้องคู่กับผู้หญิงสิ ผู้หญิงสวยๆ เขาใส่กันทั้งนั้น... เป็น Stereotype ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้น และแพร่สะพัดไปทั่วทุกวงสังคมโลก (ซึ่งอาจมีอยู่ในปัจจุบัน) ทั้งที่ต้นกำเนิดของรองเท้าส้นสูงนั้นมาจากผู้ชายแท้ๆ อีกทั้งความคาดหวังให้ผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูงนั้นจะมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางสถานที่หรือบางอีเว้นท์ เช่น งานแต่งงาน แต่เคยถามพวกเธอหรือไม่ว่า เดินสะดวกไหม? เจ็บเท้าหรือเปล่า? และคำถามที่สำคัญที่สุดคือ เพราะเหตุใดกัน พวกเธอถึงคู่ควรกับสนีกเกอร์หรือรองเท้าผ้าใบไม่ได้ ? ...

ในยุคสมัยใหม่นี้  SASOM (สะสม) ขอยืนยันเลยว่า นิยามความสวยไม่ได้ถูกกำหนดโดยรองเท้าที่ใส่ ทุกคน ดูดีได้ไม่ว่าจะใส่สนีกเกอร์ ส้นสูง หรือรองเท้าแตะก็ตาม คนที่จะประเมินค่าและวัดความงามของเราได้ คือ “ตัวเราเอง”  ไม่มีอีกแล้ว สวยในแบบของคนอื่น สวยในแบบของตัวเอง “เพราะสวยก็คือสวย” ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม นอกจากนี้ หากพูดถึงแฟชั่นสตรีในอนาคต ก็อาจถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องปฏิวัติแนวคิดอนุรักษ์นิยมนี้ให้หมดสิ้นไป พร้อมสร้างทัศนคติใหม่ “ผู้หญิงคู่ควรกับสิ่งที่เธอต้องการจะใส่” แถมแนวคิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ในโลกโซเชียลเท่านั้นนะ เพราะหลายแบรนด์แฟชั่นระดับโลกเองก็ตระหนักถึงสิ่งนี้เช่นกัน และหันมาทำตลาดเจาะกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น มี Nike เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง SASOM (สะสม) ก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายภาพจำแบบเก่าๆ ด้วยการเชิญชวนให้ทุกคนสร้างลุคใหม่ๆ ด้วยรองเท้า “แบบที่ตัวเองอยากใส่” ถ้ายังคิดไม่ออก เรามีไอเดียให้ด้านล่างนี้เลยย

...
ผู้หญิงสีชมพู ผู้ชายสีฟ้า หรือ สีคือตัวกำหนดเพศจริงเหรอ? (Color is not gender)

แม้กรอบเรื่อง “ผู้หญิงสีชมพู ผู้ชายสีฟ้า” ซึ่งเป็นสัญญะทางเพศจะถูกทลายลงตั้งแต่ปี 1960 ด้วยการขับเคลื่อนของกลุ่มเฟมินิสต์ แต่ก็ถูกหยิบยกกลับมาใช้อีกครั้งในช่วงปลายทศวรรษ 80s เพื่อใช้แบ่งแยกการโฆษณาสินค้าสำหรับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง อาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งนี้กลับกลายเป็นแนวคิดที่ฝังรากลึกให้คนรุ่นหลังยึดคติว่า “สีบ่งบอกถึงเพศ” แถมยังทำให้ผู้คนมากมายต้องจำยอมด้วยความอัดอั้นตันใจ จำต้องไหลตามกระแสสังคม เด็กสาวต้องชอบสีโทนหวาน เช่น ชมพู ขาว ครีม เด็กชายต้องหลงรักสีโทนเข้ม เช่น ดำ เทา ฟ้า...

ทว่า...ในยุคเมต้าเวิร์สเช่นนี้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องกำจัดกรอบเรื่อง สีใดเหมาะกับเพศไหน เพราะ ไม่ว่าจะเป็นสีไหนก็เหมาะกับทุกคน ทุกเพศ ผู้หญิงสามารถชอบสีเข้มได้ ผู้ชายก็มีสิทธิชอบสีอ่อนได้ หรือถ้าสรุปง่ายๆ คือ “ไม่มีสีไหนสำหรับเพศไหนอีกต่อไป” เช่นเดียวกันกับแฟชั่นการแต่งตัว ไม่ว่าจะเพศใดก็สามารถสนุกสนานกับเสื้อผ้าหลากสไตล์ หลายสีสันได้ เข้ม อ่อน นีออน พาสเทล ฯลฯ เป็นเพียงแค่สีไม่ใช่ตัวกำหนดอัตลักษณ์ทางเพศ SASOM (สะสม) เองก็ขอเป็นแรงกำลังใจพร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนสนุกไปกับการแต่งตัวหลากสีสัน เพื่อเป็นการเปิดประตูสู่แฟชั่นยุคใหม่ ไม่เพียงชาย หรือ หญิง เราเป็นมนุษย์เท่ากันหมด !

...
ผู้หญิง + เสื้อผ้าตามใจคนอื่น = Nice Girl ? (DON’T TELL ME HOW TO DRESS)

“เธอมันโป๊ไปป่าว... มันสั้นไปไหม... เหมือนขอทานเลย และอีกมากมาย” แน่นอนว่า ปัจจุบันนี้ ผู้หญิงอย่างเราๆ ก็ยังคงเผชิญกับคำถามลดทอนกำลังใจเหล่านี้อยู่บ่อยๆ แถมในบางครั้ง ก็อาจมีคำถามที่ร้ายแรงสุดโผล่มาให้หงุดหงิดใจ นั่นคือ “ใส่ไปโชว์ใคร?” แน่นอนว่า เรื่องใส่เสื้อผ้าแบบไหนถึงโอเค นับเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันไม่รู้จบสิ้น อาจเพราะเป็นห่วงว่า ถ้าใส่สั้นแล้วจะไม่ปลอดภัยเวลาไปไหนในยามวิกาล จนเลยเถิดไปสู่การถูกขืนใจได้ และประเด็นนี้เองจึงนำไปสู่ นิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ พร้อมกับแฮชแท็กในสังคมออนไลน์ #DontTellMeHowToDress ที่นำเสนอเรื่องราวเสื้อผ้าของเหยื่อผู้หญิงที่สวมใส่ ณ วันที่ถูกขืนใจ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเสื้อผ้าหลายชิ้นเป็นเพียง “เสื้อผ้าธรรมดาทั่วไป” ไม่ได้โป๊เปลือยแต่อย่างใด ดังนั้น จะเห็นได้ว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้หญิงแต่งตัวอย่างไร แต่อยู่ที่ทำไมคนข่มขืนถึงควบคุมอารมณ์และแรงขับของตนไม่ได้ต่างหาก

ถ้าให้ตอบปัญหานี้กันแบบตรงๆ ว่าผู้หญิงควรแต่งตัวเช่นไร คำตอบนั้นแสนง่าย ไม่ต้องสาธยายเพิ่ม ก็ในเมื่อร่างกายเป็นของเราเอง เราก็ย่อมมีสิทธิจะแต่งแบบไหนก็ได้ตามใจตัวเอง เราก็แค่อยากสวย อยากดูดี “ในสายตาของเรา” เราใส่แล้วรู้สึกมีความมั่นใจขึ้นและมีความสุข  แค่นั้น จอบอ...จบ ! ด้วยเหตุนี้ SASOM (สะสม) ก็ขอเป็นหนึ่งแรงใจให้ทุกคนภูมิใจและมั่นใจในตัวเอง มีเพียงสายตาเดียวที่จะตัดสินความงามของคุณได้ นั่นคือ “สายตาของคุณเอง” และเราก็อยากบอกผู้หญิงทุกคนว่า “คุณอยากแต่งแบบไหน จะสั้นหรือยาว จะเป็นยังไง ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณชอบ เป็นตัวของคุณเอง คุณสวยแล้วครับ”