Asics: From Dad Shoes to Must-Have Sneakers in 2024

Asics กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง! จากรองเท้าสุดเชย สู่ sneakers กระแสหลัก รวมรองเท้า Asics ผู้หญิง, รองเท้า Asics ผู้ชาย, รองเท้าผ้าใบ Asics รุ่นสุดฮิต พร้อมบอกราคารองเท้าที่คุณห้ามพลาด

...

Asics จากรองเท้าสุด ‘เชย’ สู่รองเท้าสุด ‘ฮิต’ ในปี 2024 นี้

ถ้าพูดถึงแบรนด์รองเท้าที่กำลังมาแรงในช่วง 2-3 ปีมานี้ หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nike หรือ Adidas แต่พักหลังมานี้ชื่อของ Asics ต้องผุดขึ้นมาในหัวใครหลายต่อหลายคนแน่นอน โดย Asics แบรนด์รองเท้าสัญชาติญี่ปุ่นที่พลิกโฉมตัวเองจากแบรนด์ที่เคยถูกมองว่า "เชย" มาเป็น "เท่" จนทำให้ทั้งรองเท้า Asics ผู้ชาย และรองเท้า Asics ผู้หญิง กลายเป็นไอเทมที่ใครๆ ก็อยากครอบครอง

จากแบรนด์ที่เคยถูกมองว่าเป็นรองเท้าสำหรับนักวิ่งหรือคนแก่ วันนี้ Asics ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์สตรีทแวร์ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าต้องมีติดตู้ ด้วยราคารองเท้า Asics ที่คุ้มค่าคุ้มราคา เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่อัดแน่นมาในทุกคู่ ไม่ว่าจะเป็นระบบกันกระแทก GEL ที่โด่งดัง หรือพื้นรองเท้านวัตกรรมใหม่อย่าง FlyteFoam ที่ทำให้การสวมใส่สบายเท้าอย่างเหลือเชื่อ เพราะฉะนั้นวันนี้ SASOM จะพามาดูว่ากว่าจะมาเป็นแบรนด์รองเท้า Asics มีที่มาที่ไปอย่างไร และเทคโนโลยี Gel สุดฮิตที่มีอยู่ในรองเท้าผ้าใบ Asics แทบทุกคู่นั้นคืออะไร

...

จากอดีตสู่ปัจจุบัน: เส้นทางของ Asics

จริงๆ แล้วรองเท้าผ้าใบ Asics ไม่ได้ถือกำเนิดมาเป็นแบรนด์แรก แต่ว่าแบรนด์พี่น้องที่เกิดมาก่อนหน้านั้นคือแบรนด์รองเท้าที่เรารู้จักกันดีอย่าง Onitsuka Tiger ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1949 ซึ่งคุณ Kihachiro Onitsuka (คิฮาจิโร โอนิตสึกะ) ผู้ก่อตั้งคือหนึ่งในเหยื่อจากผลกระทบสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ความเจ็บปวด ความเศร้าโศก ความบอบช้ำและหมดสิ้นความหวังของญี่ปุ่น ณ เวลานั้นคือสิ่งที่ส่งผลให้เขาตัดสินใจยืนหยัดขึ้นสู้ โดยคุณ Onitsuka อยากจะฟื้นฟูจิตใจของชาวญี่ปุ่นและสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งเขาเชื่อว่า “กีฬา” คือสิ่งที่ดีที่สุดในการกอบกู้ความหวังกลับคืนมา และนั่นคือเหตุผลที่เขาตัดสินใจสร้าง Onitsuka Tiger แบรนด์รองเท้ากีฬาแห่งความหวังนั่นเอง! จนเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ในปี 1977 คุณ Onitsuka จึงตัดสินใจร่วมมือกับ GTO และ JELENK เปิดตัวแบรนด์รองเท้าผ้าใบ Asics ที่เน้นเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีควบคู่ไปกับราคารองเท้า Asics ที่สมเหตุสมผล โดยใช้ความเชื่อในปรัชญา "Anima Sana In Corpore Sano" หรือ "จิตใจที่ดีอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง" ซึ่งเขาเอาตัวอักษรด้านหน้าทั้งหมดรวมกันและกลายมาเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ Asics ในเวลาต่อมา จุดเด่นของแบรนด์คือการทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนา โดยมีสถาบันวิจัย Asics Institute of Sport Science ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ

ยุคมืดของ Asics: เมื่อไม่มีใครสนใจ

แม้จะมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่ในช่วงก่อนปี 2020 รองเท้า Asics กลับถูกมองข้ามจากกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างสิ้นเชิง ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเชย ไม่ทันสมัย เหมือนรองเท้าตกยุคและถูกมองว่าเป็นรองเท้าสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น แม้ราคารองเท้า Asics ณ ตอนนั้นจะมีราคาไม่แรง แต่เพราะแบรนด์คู่แข่งอย่าง Nike และ Adidas กำลังครองตลาดด้วยการทำตลาดที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม นั่นทำให้ Asics ถูกจัดไว้เป็นเพียงรองเท้าสำหรับคนแก่ ไม่ก็สายนักวิ่งที่ชื่นชอบรองเท้าผ้าใบ Asics เท่านั้นเอง

การกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของ Asics ในปี 2024

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Asics เริ่มปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ ด้วยการจับมือกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง Kiko Kostadinov และ Vivienne Westwood ทำให้รองเท้าผ้าใบ Asics เริ่มสร้างความนิยมในหมู่เด็กรุ่นใหม่ สร้างคอลเลคชั่นที่ผสมผสานความสปอร์ตเข้ากับแฟชั่นได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ กระแส Dad Shoes ที่มาแรงก็ช่วยให้ดีไซน์แบบคลาสสิกของ Asics GEL-KAYANO 14 และ GEL-NIMBUS กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แต่ต้องขอบคุณกระแสความนิยมของ Y2K ในปัจจุบัน ที่ทำให้สไตล์ที่เคยถูกมองว่าตกยุค เชย เช่นสี Metallic กลายมาเป็นความโดดเด่น ทันสมัย แถมมาพร้อมเทคโนโลยีที่ใส่สบายมากๆ จนทำให้ใครต่อใครต่างหลงรัก แถมความเป็น Unisex ที่สังคมสมัยนี้ยึดถือกัน ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า Asics ผู้หญิง, รองเท้า Asics ผู้ชาย, รองเท้าผ้าใบ Asics ทุกแบบสามารถหยิบมาแมทช์ใส่ได้อย่างไม่เคอะเขิน ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตีกรอบแต่อย่างใด โดยยังอยู่ในราคารองเท้า Asics ที่ถูก เหมาะสมกับเทคโนโลยี

เทคโนโลยีที่ทำให้ Asics โดดเด่น

...

GEL Technology: นวัตกรรมที่เปลี่ยนวงการรองเท้าวิ่ง

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ทำให้รองเท้า Asics แตกต่างคือ GEL Technology ระบบรองรับแรงกระแทกที่ใช้เจลพิเศษฝังอยู่ในพื้นรองเท้าทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ช่วยลดแรงกระแทกขณะวิ่งได้มากถึง 28% เมื่อเทียบกับรองเท้าทั่วไป ทำให้นักวิ่งสามารถวิ่งได้นานขึ้นโดยไม่บาดเจ็บ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ารองเท้า Asics ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า Asics ผู้หญิง หรือ รองเท้า Asics ผู้ชาย ก็จะมีพื้นรองเท้าที่อัดแน่นไปด้วย Gel Technology แบบไม่กั๊ก กดแล้วนุ่มเด้ง ยิ่งใส่ยิ่งสบาย สมกับเป็นรองเท้าวิ่งที่อัดนวัตกรรมขั้นสุดจริงๆ

เทคโนโลยี GEL™ ของ Asics ทำงานครอบคลุมทั้งเท้าส่วนหน้าและส่วนหลัง ด้วยการวางตำแหน่งเจลอย่างแม่นยำ ส่วนหลังเท้าช่วยลดแรงกระแทกขณะส้นเท้าสัมผัสพื้นและช่วยส่งผ่านแรงไปอย่างราบรื่น ในขณะที่ส่วนหน้าเท้าช่วยเพิ่มการดูดซับแรงกระเทือนในขณะที่สวมใส่รองเท้าผ้าใบ Asics ก้าวเดิน นอกจากนี้ โครงสร้างโฟมนุ่มหลายชั้นยังช่วยเสริมความสบายและลดแรงกระแทกได้มากขึ้น

วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นโพลิเมอร์ชนิดพิเศษ กลายเป็นซิลิโคนที่มีคุณสมบัติการตอบสนองการเคลื่อนไหวของร่างกายในขณะเล่นกีฬาที่ดีเยี่ยม ระบบเทคโนโลยี GEL™ หลายชั้นถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับแรงกระแทกให้ดียิ่งขึ้น

...

FlyteFoam: น้ำหนักเบา แต่ทนทาน

FlyteFoam คือวัสดุพื้นรองเท้าสุดเบาจาก Asics ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าพื้นรองเท้าทั่วไปถึง 55% และมีความสามารถในการรองรับแรงกระแทกและส่งคืนพลังงานได้ดี ช่วยให้รองเท้ารุ่นนี้เหมาะกับการวิ่งระยะไกลที่ต้องการความเบาสบาย ทำให้รองเท้า Asics ผู้หญิงและ รองเท้า Asics ผู้ชายมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เหมาะกับการวิ่งระยะไกล

โดยเทคโนโลยี FLYTEFOAM™ PROPEL คือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและการดีดตัวในทุกก้าว พร้อมกับโฟมน้ำหนักเบาที่ลดแรงดึง เพื่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติและนุ่มนวล ยางทีพีเอสในรองเท้าผ้าใบ Asics ทุกคู่ที่ยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มแรงเด้งกลับ ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รองเท้า Asics รุ่นยอดนิยม และราคา

รองเท้า Asics ผู้หญิง

Asics GEL-NIMBUS 25

เหมาะสำหรับ: วิ่งระยะไกล → เทคโนโลยี: GEL, FlyteFoam Blast+ → ราคาเริ่มต้นบน SASOM: 4,xxx บาท

Asics GEL-KAYANO 29

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาเท้าแบะ → เทคโนโลยี: Dynamic DuoMax, GEL → ราคาเริ่มต้นบน SASOM: 4,xxx บาท

รองเท้า Asics ผู้ชาย

Asics GEL-QUANTUM 360

เหมาะสำหรับ: วิ่งและใส่ประจำวัน → เทคโนโลยี: 360° GEL → ราคาเริ่มต้นบน SASOM: 4,xxx บาท

Asics GT-2000 11

เหมาะสำหรับ: นักวิ่งหน้าใหม่ → เทคโนโลยี: GEL, DUOMAX → ราคาเริ่มต้นบน SASOM: 3,xxx บาท

Asics GEL-CUMULUS 24

เหมาะสำหรับ: วิ่งระยะกลาง → เทคโนโลยี: FlyteFoam, GEL → ราคาเริ่มต้นบน SASOM: 4,xxx บาท

ทำไม Asics ถึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน

1. คุณภาพรองเท้า Asics ที่พิสูจน์แล้ว

รองเท้าผ้าใบ Asics ไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วครู่ แต่เป็นรองเท้าวิ่งที่ได้รับการยอมรับจากนักวิ่งมืออาชีพทั่วโลก ด้วยราคารองเท้า Asics ที่คุ้มค่า มาพร้อมกับคุณภาพการผลิตแบบญี่ปุ่นที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รองเท้าแต่ละคู่มีความทนทานสูง และให้ประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอ ซึ่งถือเป็นจิตวิญญาณของ Asics เลยก็ว่าได้ ที่ยังคงเชื่อในนวัตกรรม และยึดในปรัชญา "Anima Sana In Corpore Sano" หรือ "จิตใจที่ดีอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง" ไม่เสื่อมคลาย

2. ความลงตัวระหว่างฟังก์ชันและแฟชั่น

Asics สามารถผสมผสานความสปอร์ตเข้ากับแฟชั่นได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะในซีรีส์ GEL-KAYANO 14 ที่กลายเป็นไอเทมยอดนิยมในวงการสตรีทแฟชั่น ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ง่าย ทำให้รองเท้าผ้าใบ Asics คู่นี้สามารถครองใจทุกคนได้ไม่ยาก

3. การรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ

นักกายภาพบำบัดและแพทย์ด้านกีฬาหลายท่านแนะนำรองเท้า Asics สำหรับผู้ที่มีปัญหาเท้าหรือต้องการรองเท้าที่รองรับแรงกระแทกได้ดี โดยเฉพาะรุ่น GEL-KAYANO ที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยแก้ปัญหาเท้าแบะได้ดี และเหมาะสำหรับคนที่เดินเป็นประจำ เพราะเทคโลโลยี Gel จะช่วยกระจายน้ำหนักลงไปที่พื้น ทำให้เข่าและข้อต่อรับภาระไม่เยอะ

ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดแข็งของทั้งรองเท้า Asics ผู้หญิงและรองเท้า Asics ผู้ชายในแง่การการันตีแล้วว่าเทคโนโลยีของ Asics มีความสุดยอดและไม่แพ้แบรนด์ยักษ์ใหญ่เลยแม้แต่น้อย

เปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น

Asics vs Nike

Asics: เน้นเทคโนโลยีด้านการรองรับแรงกระแทก เหมาะสำหรับวิ่งระยะไกล ทำให้วิ่งได้นาน แต่ Nike: โดดเด่นด้านความเร็วและการตอบสนอง เหมาะสำหรับวิ่งแข่ง

Asics vs Adidas

Asics: มีระบบป้องกันการบาดเจ็บที่ครอบคลุม การล็อกข้อเท้าให้ไม่ล้มง่าย แต่ Adidas: เน้นนวัตกรรมด้านการคืนพลังงาน

คำแนะนำในการเลือกซื้อรองเท้าผ้าใบ Asics

1. พิจารณาลักษณะการวิ่ง → เท้าแบะ: แนะนำ GEL-KAYANO series → เท้าปกติ: GEL-NIMBUS หรือ GEL-CUMULUS → นักวิ่งน้ำหนักมาก: GT-2000 series

2. ระยะทางที่วิ่ง → วิ่งระยะสั้น (5-10 กม.): NOVABLAST → วิ่งระยะกลาง (10-21 กม.): GEL-CUMULUS → วิ่งระยะไกล (มากกว่า 21 กม.): GEL-NIMBUS

3. งบประมาณ → ต่ำกว่า 4,000 บาท: Asics JOLT → 4,000-6,000 บาท: GT-2000, GEL-CUMULUS → 6,000 บาทขึ้นไป: GEL-KAYANO, GEL-NIMBUS

การดูแลรักษารองเท้า Asics

1.ทำความสะอาดสม่ำเสมอ → ใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่น → เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ → หลีกเลี่ยงการซักเครื่อง

2.การเก็บรักษา → เก็บในที่แห้ง ไม่โดนแดด → ใส่ที่รองรูปทรงเพื่อรักษาฟอร์ม → หลีกเลี่ยงการวางซ้อนทับกัน

เทรนด์รองเท้า Asics ในปี 2025

ดูเหมือนกระแสความนิยมของรองเท้า Asics จะยังไม่เสื่อมไปอย่างง่ายดาย เพราะด้วยความที่รองเท้าผ้าใบ Asics ตอบโจทย์ในด้านความนุ่มสบาย ใส่ได้นาน รูปลักษณ์ที่เท่ โดดเด่น และมีราคารองเท้า Asics ที่สมเหตุสมผล อีกทั้งกระแสของแฟชั่นในปัจจุบันที่เอื้อให้เกิดความหลากหลายในการแต่งตัวแล้ว ยิ่งการันตีได้ว่าหาก Asics ยังคงรักษาคุณภาพและปรัชญาของแบรนด์ได้อย่างดีเยี่ยมแล้วละก็ รองเท้า Asics จะไม่มีวันหายไปจาก Scene ของวงการ Sneakers อย่างแน่นอน

สรุป

การกลับมาของ Asics ไม่ใช่เพียงกระแสชั่วครู่ แต่เป็นผลจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเทคโนโลยีและการออกแบบ จนทำให้แบรนด์ที่เคยถูกมองข้ามกลายเป็นผู้นำในวงการรองเท้าวิ่งและแฟชั่น ด้วยจุดเด่นทั้งด้านคุณภาพ ความสบาย และสไตล์ที่ทันสมัย ทำให้รองเท้าผ้าใบ Asics กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับทั้งนักวิ่งและผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นในปัจจุบัน

หากคุณกำลังมองหารองเท้าคู่ใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชันและแฟชั่นรองเท้า Asics อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา ด้วยความหลากหลายของรุ่นและเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รองเท้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างแน่นอน

และสำหรับรองเท้า Asics ทั้ง รองเท้า Asics ผู้หญิง, รองเท้า Asics ผู้ชาย, รองเท้าผ้าใบ Asics สามารถซื้อได้ผ่านทาง SASOM ของแท้ 100% พร้อมการันตีส่งถึงที่แน่นอน ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนโกงหรือได้รองเท้า Asics คุณภาพไม่ดี เพราะว่า SASOM มีทีมงานตรวจสอบอย่างเข้มงวด และเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน หากใครต้องการซื้อ-ขายรองเท้า Asics ของแท้ สามารถเลือกดูรองเท้า Asics ผ่านหน้าเว็บ www.sasom.co.th หรือดาวน์โหลดแอป SASOM ได้ทั้ง iOS และ Android รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!

Recommended

    Asics: From Dad Shoes to Must-Have Sneakers in 2024 | SASOM