The Great Luxury Squeeze: Is Polène Still 'Accessible' in 2025?

ทำไม Polène ถึงขึ้นราคา? แบรนด์เนมราคาจับต้องได้ยังเหลืออยู่ไหม? เจาะลึกเทรนด์แบรนด์ลักชูร่วมสมัยที่ราคาพุ่งสูงขึ้น และวิธีรับมือสำหรับนักช้อปสายแฟชั่น

...

Polène ยังเป็น 'Accessible Luxury' อยู่ไหม? ส่องราคา-กลยุทธ์แบรนด์ลักชูร่วมสมัยปี 2025

The Great Luxury Squeeze: เมื่อ Polène และแบรนด์ Accessible Luxury ไม่ 'Accessible' อีกต่อไป สวัสดีครับชาว SASOM! เคยรู้สึกไหมว่าแบรนด์กระเป๋าที่เราเคยคิดว่า "เอื้อมถึง" อย่าง Polène หรือ Celine ตอนนี้ราคาพุ่งแรงจนน่าตกใจ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องธรรมดา แต่เป็นเทรนด์ใหญ่ที่เรียกว่า "The Great Luxury Squeeze" หรือ "การบีบอัดครั้งใหญ่ของวงการลักชัวรี" ที่กำลังเปลี่ยนเกมการช้อปปิ้งของเราไปอย่างสิ้นเชิง

วันนี้เราจะมาคุยกันแบบเปิดอกว่าทำไมแบรนด์เหล่านี้ถึงขึ้นราคาไม่หยุด และเราในฐานะนักช้อปจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้ยังไงบ้าง

Polène: จาก “กระเป๋าแบรนด์เนมไม่เกิน 35,000” สู่การยกระดับแบรนด์ เมื่อก่อน Polène คือแบรนด์ในฝันของใครหลายคนเลยครับ ด้วยดีไซน์มินิมอลแต่หรูหรา และที่สำคัญคือราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ โดยเฉพาะรุ่นฮิตอย่าง Polène Numéro Un หรือ Polène Neuf ที่เคยเป็นเจ้าของได้ในราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท ทำให้ Polène กลายเป็นสัญลักษณ์ของคำว่า "Accessible Luxury" ที่แท้จริง

แต่แล้วทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป Polène ขึ้นราคา แบบไม่เกรงใจใครในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนตอนนี้หลายรุ่นราคาเกิน 35,000 บาท ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งราคาแบบนี้เริ่มไปชนกับแบรนด์ Luxury ตัวท็อปอย่าง Prada หรือ Bottega Veneta ที่หลายคนคุ้นเคย คำถามก็คือ: แล้วแบบนี้ Polène ยังคงเป็น แบรนด์เนมราคาจับต้องได้ อยู่ไหม?

...

ทำไม Polène ถึงต้องขึ้นราคา?

เบื้องหลังการขึ้นราคาของ Polène ไม่ใช่แค่เรื่องของการกอบโกยกำไร แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งกว่านั้น:

อยากให้แบรนด์ดูแพงขึ้น: เมื่อแบรนด์ดังขึ้น การขึ้นราคาก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยยกระดับแบรนด์ให้ดูมีมูลค่าและพรีเมียมมากขึ้น

คุม Demand ไม่ให้ล้น: พอสินค้าเป็นที่ต้องการมากๆ การขึ้นราคาก็เหมือนการเบรกความนิยมไม่ให้มันกลายเป็นสินค้าที่ใครๆ ก็มี

ต้นทุนที่แพงขึ้น: ทั้งค่าหนัง ค่าแรง และค่าขนส่งที่สูงขึ้น ก็เป็นเหตุผลที่แบรนด์ต้องปรับราคาตาม

พูดง่ายๆ ก็คือ Polène ไม่ได้อยากเป็นแค่ แบรนด์เนมราคาจับต้องได้ อีกต่อไปแล้ว แต่กำลังจะกลายเป็น แบรนด์ลักชูร่วมสมัย ที่พร้อมจะวัดรอยเท้าแบรนด์ใหญ่ในอนาคต

...

เมื่อ Accessible Luxury ไม่ Accessible อีกต่อไป

ปรากฏการณ์ของ Polène เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทรนด์ใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในวงการแฟชั่น โดยแบรนด์ในกลุ่ม Accessible Luxury อย่าง Tory Burch, Coach หรือ Michael Kors ก็กำลังทยอยขยับราคาและสร้างภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราขึ้นตามไปด้วย

เรื่องนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัย:

ลูกค้า Gen Z ไม่ยึดติดแบรนด์: กลุ่ม Gen Z ไม่ได้มองแค่ชื่อแบรนด์ แต่ให้ความสำคัญกับดีไซน์และเรื่องราวของแบรนด์มากกว่า

ตลาด Resale โตแบบก้าวกระโดด: พอของมีมูลค่าในตลาดมือสอง คนก็กล้าลงทุนซื้อของมือหนึ่งมากขึ้น เพราะรู้ว่าขายต่อได้

แบรนด์เน้นประสบการณ์: แบรนด์ยุคใหม่ลงทุนกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ทั้งในร้านและออนไลน์ ซึ่งก็เป็นต้นทุนที่ต้องบวกเพิ่ม

เมื่อช่องว่างระหว่างแบรนด์ Luxury (แบบ Chanel, Hermès) กับ Accessible Luxury (แบบ Coach, Polène) เริ่มเบลอลง ก็เลยเกิดกลุ่มแบรนด์ใหม่ที่เรียกว่า Mass-tige (Mass + Prestige) ขึ้นมาเติมช่องว่างนี้แทน ซึ่งก็คือแบรนด์ที่มีคุณภาพดีไซน์สวย แต่ราคาไม่แรงจนเกินไป ตัวอย่างเช่น COS หรือ The Frankie Shop ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในหมู่นักช้อปที่ฉลาดเลือก

...

ทางออกของนักช้อปที่ยังอยากได้ของดีราคาโดน

พอทุกแบรนด์พร้อมใจกันขึ้นราคาแบบนี้ นักช้อปอย่างเราก็ต้องมีวิธีเอาตัวรอดครับ:

1. ลองดู “ของมือสอง” หรือ “มือหนึ่งสภาพดี”: การซื้อขายของแบรนด์เนมในตลาดมือสองคือทางออกที่ฉลาดที่สุด เพราะเราได้เป็นเจ้าของสินค้าในราคาที่ถูกกว่า และบางครั้งยังได้รุ่นที่หายากไปแล้วด้วย

2. เปิดใจให้แบรนด์ใหม่ๆ: อย่าเพิ่งท้อใจ! ยังมี กระเป๋าแบรนด์เนมไม่เกิน 35,000 ที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น A.P.C., By Far หรือ Strathberry ที่มีสไตล์เป็นของตัวเองและคุณภาพดีไม่แพ้แบรนด์ดังๆ เลย

3. คิดให้ดีก่อนซื้อ: ลองใช้เวลาสักนิดคิดว่ากระเป๋าใบนี้ “คุ้ม” จริงไหม? คุ้มกับราคาที่จ่ายไปหรือเปล่า? เราจะใช้บ่อยแค่ไหน? มันจะยังมีมูลค่าอยู่ไหมในอนาคต?

สรุปง่ายๆ ก็คือ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องปกติของวงการแฟชั่นครับ แต่ก็เป็นโอกาสให้เราได้สำรวจทางเลือกใหม่ๆ และช้อปปิ้งอย่างชาญฉลาดมากขึ้น

...

สรุป: โลกของแฟชั่นที่เปลี่ยนไป และ SASOM ที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณ

โดยสรุปแล้ว ปรากฏการณ์ The Great Luxury Squeeze ที่มี Polène เป็นตัวอย่างนี้กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดแฟชั่นไปอย่างสิ้นเชิงครับ แบรนด์ที่เคยเป็น แบรนด์เนมราคาจับต้องได้ กำลังยกระดับตัวเอง ทำให้เกิดช่องว่างสำหรับนักช้อปที่มองหาสินค้าคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้

ไม่ว่าเทรนด์จะเปลี่ยนไปแค่ไหน ความต้องการของนักช้อปที่จะได้ของแท้และคุ้มค่าที่สุดก็ยังคงเหมือนเดิมครับ

ถ้าคุณกำลังเล็งกระเป๋า Polène Numéro Neuf หรือ Polène Numéro Un ของแท้ในราคาที่ดีที่สุด หรือกำลังมองหา กระเป๋าแบรนด์เนมไม่เกิน 35000 รุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ

มาเลย! คุณสามารถซื้อขายสินค้า Polène ของแท้ราคาดีได้ที่ www.sasom.co.th และแอปพลิเคชัน SASOM ได้ทั้ง iOS/Android ในฐานะแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าแฟชั่นของแท้อันดับ 1 ในไทย เราคัดสรรสินค้าทุกชิ้นและตรวจสอบความถูกต้องอย่างเข้มงวด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ของแท้ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดเสมอครับ

...

SASOM ของแท้ต้องผ่านแอปเท่านั้น! (iOS/Android)

บทความแนะนำ

    The Great Luxury Squeeze: Is Polène Still 'Accessible' in 2025? | SASOM