New Balance : Decode the Numbers

ถอดรหัสตัวเลข รองเท้า New Balance

01/09/2023

...
ถอดรหัสตัวเลข รองเท้า New Balance

“New Balance” แบรนด์รองเท้าสุดคลาสสิกที่มีอายุยาวนานกว่า 117 ปี ได้รับขนานนามว่าเป็นสนีกเกอร์สุดฮิตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว! ซึ่งนับเป็นการกลับมาอันแสนยิ่งใหญ่เหมือนดั่งความใฝ่ฝันและความมุ่งมั่นของดีไซน์เนอร์อย่าง “Andrew Nyssen” ที่สามารถทำให้นิวบาลานซ์กลับมาเป็นกระแสและเป็นแบรนด์รองเท้าทรงอิทธิพลในยุคนี้! ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นคืนชีพโมเดลรองเท้าวิ่งยุค 2000s สู่ New Balance 1906 รองเท้าดีไซน์ Y2K ที่ประจวบเหมาะกับเทรนด์มาแรงในช่วงนี้ หรือการรีเมครองเท้าให้กลับมาขายดีอย่าง New Balance 2002 R เรียกว่าหยิบจับอะไรก็โดนใจวัยรุ่นยุคใหม่แบบสุดๆ แต่จุดเด่นไม่ได้มีเพียงแค่ดีไซน์ที่สวยงามเท่านั้น New Balance ยังคงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความสำคัญถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอีกหนึ่งความลับที่เราอยากจะมาบอกแฟนเพจ SASOM นั่นก็คือการตั้งชื่อรุ่นของรองเท้านิวบาลานซ์ ที่ไม่ได้ตั้งชื่อรหัสขึ้นมาแบบมั่วซั่ว แต่เป็นเลขรหัส(ไม่)ลับที่จะบ่งบอกตัวตนของรองเท้ารุ่นนั้นๆ ของนิวบาลานซ์นั่นเองซึ่งความหมายแฝงจะเป็นอะไรนั้นตามมาอ่านกันได้เลย..

...
New Balance ฟังก์ชันเด่นไม่เป็นรองดีไซน์

จุดเด่นของแบรนด์ New Balance คือรองเท้าเเต่ละรุ่นนั้นมีต้นกำเนิดและจุดประสงค์ในการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ทางเเบรนด์นิวบาลานซ์จึงได้ดีไซน์และออกเเบบไซส์รองเท้าให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์เเก่ผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยคำนึงถึงฟังก์ชันในการใช้งานและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก และถือคติเลยว่านิวบาลานซ์เป็นแบรนด์ที่ผลิตรองเท้าคุณภาพสูง ใส่ใจทุกรายละเอียด และพยายามรักษามาตรฐานการผลิตให้คงที่มากที่สุด โดยมีการแบ่งชื่อรุ่น “เลขรหัสรองเท้า” ที่แตกต่างกันออกไปตามหมวดหมู่การใช้งาน ระดับประสิทธิภาพของเทคโนโลยี และตามด้วยสไตล์รองเท้า ยิ่งถ้าหากมีตัวเลขที่สูงขึ้นมากเท่าไหร่ก็จะบ่งบอกถึงสมรรถภาพทางเทคโนโลยีสูงมากเท่านั้นเช่นรองเท้าตระกูล 99X อย่าง new balance 990V1-6 ที่เป็นรองเท้า Premium Sneakers หรือ new balance 991 ที่ดังกระหึ่มเพราะ Steve Jobs ใส่นั่นเอง

...
ถอดรหัสเลข(ไม่)ลับของรองเท้า New Balance

นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของแบรนด์ New Balance ครั้งใหญ่ในช่วงยุคหลัง 1970 Jim Davis เข้าซื้อกิจการแบรนด์นิวบาลานซ์ โดยเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเรียกชื่อของรองเท้าด้วยรหัสตัวเลขแทนชื่อรุ่น ซึ่งหมายเลขต่างๆ นั่นหมายถึงประเภทกิจกรรมที่เหมาะสมจำแนกตามหมวดหมู่ต่างๆ ยิ่งมีเลขที่สูงขึ้นจะบ่งบอกถึงความพิถีพิถันของการผลิตมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะอ้างอิงตามหลักของแบรนด์ได้ 2 ส่วนดังนี้คือ “ตัวเลขสองหลักแรก” บ่งบอกถึงระดับความพรีเมียมของรองเท้า ยิ่งมีตัวเลขสูงก็จะบ่งบอกถึงสมรรถภาพของเทคโนโลยีคุณภาพที่เหนือกว่า และ “ตัวเลขสองหลักด้านหลัง” บ่งบอกถึงประเภทการใช้งานหรือ Style ของรองเท้านั่นเอง

...
“ตัวเลขสองหลักแรก”

ตัวเลขที่อยู่สองหลักด้านหน้าจะบ่งบอกถึงความหมายถึงระดับความพรีเมียมของรองเท้า ยิ่งมีตัวเลขสูงก็จะบ่งบอกถึงสมรรถภาพของเทคโนโลยีและคุณภาพที่เหนือกว่าซึ่งปัจจุบันตัวเลขของระดับเทคโนโลยีนิวบาลานซ์จะอยู่ระหว่าง 3 ถึง 19 โดยรองเท้าวิ่งรุ่นท็อปหรือตระกูลที่เอาไว้ใช้สำหรับฝึกซ้อมแบบดีที่สุดจะอยู่ที่เลข 10 เป็นเลขสูงสุด เช่น New Balance 1080 เลขสองหลักแรกคือเลข 10 จะหมายถึงรุ่นท็อปหรือรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับรองเท้าวิ่งใส่ซ้อมนั่นเอง และตัวเลขที่รองลงมาอย่างเลข 8-9 นั้นเป็นรองเท้าวิ่งรุ่นมาตรฐาน ส่วนในตัวเลขรหัสสูงๆ อย่างรหัส 14 ขึ้นไปจะเป็นรองเท้าสำหรับการใส่เพื่อวิ่งแข่งขันโดยเฉพาะหรือแบบพรีเมียมนั่นเอง

...
“ตัวเลขสองหลักด้านหลัง”

ในส่วนของตัวเลขสองหลักสุดท้ายคือแบ่งตามประเภทการใช้งานหรือ Style ของรองเท้าที่แตกต่างไปในแต่รุ่น ในอดีตนิวบาลานซ์แบ่งประเภทตามตัวเลขมากถึง 7 แบบ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าสำหรับการวิ่งหรือฟิตเนส แต่ในปัจจุบันมีการใช้เพียง 4 แบบหลักๆ เท่านั้นคือ 1. รหัส 80 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไปสำหรับนักวิ่งเท้าปกติ 2. รหัส 60 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไปสำหรับนักวิ่งเท้าแบน 3. รหัส 90 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็วสำหรับนักวิ่งเท้าปกติ และ 4. รหัส 00 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน อีกทั้งการที่มีตัว “v” ลงท้าย ตัวอักษรนี้หมายถึงฉบับปรับปรุงนั่นเอง เมื่อทางนิวบาลานซ์ต้องการออกรองเท้าโมเดลนี้ในฉบับที่ปรับปรุงใหม่จะใช้คำว่า v หรือ version ลงท้ายเพื่อบ่งบอกความใหม่กว่า เช่น new balance 990V1-6

สรุป

เมื่อนำเลขทั้งสองส่วนทั้งหน้าและหลังมารวมกันก็จะอ่านได้ดังนี้เช่น New Balance 1080 คือรองเท้าวิ่งรุ่นท็อปสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป สำหรับนักวิ่งเท้าปกตินั่นเอง หรือจะเป็นรุ่นฮิตสายแฟชันในปัจจุบันอย่าง new balance 530 หรือ new balance 550 ก็จะสรุปได้ว่าทั้งสองรุ่นนี้จะมีประสิทธิภาพในขั้นพื้นฐานที่เหมือนกันอยู่ที่ “เลข 5” แต่จะมีประเภทการใช้งานของรองเท้าที่แตกต่างกันไปนั่นเอง และด้วยเหตุนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำให้รองเท้าผ้าใบนิวบาลานซ์แต่ละรุ่นจะมีขนาดไซส์ที่ไม่เท่ากันอีกด้วย