The Complete 36 Years History of Air Jordan 1 High OG “Bred”

ย้อนรอย 36 ปีของเฉดสีในตำนาน Air Jordan 1 High OG “Bred”

27/12/2021

ย้อนรอย 36 ปีของเฉดสีในตำนานกับ Air Jordan 1 High OG “Bred”

ถ้าหากคุณเป็นผู้หลงใหลในวงการ Sneaker หรือเป็น Sneakerhead ต่างก็คงต้องรู้จักคู่สี “BRED”อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากเป็นหน้าใหม่อาจจะสับสนและไม่เคยได้ยิน สำหรับคำว่า “BRED” นั้นคือการเรียกรวมระหว่างสี “Black/Red” หรือ “ดำ/แดง” นั่นเอง ซึ่งจุดเริ่มต้นนี้เริ่มครั้งแรกเมื่อปี 1985 ที่ทาง Nike ได้สร้างสรรค์รองเท้าแห่งยุคอย่าง Air Jordan 1 ให้กับ Michael Jordan ในเฉดสี Bred

และวันนี้ Sasom (สะสม) เลยขอรวบรวม Air Jordan 1 เฉดสี “Bred” ทั้ง 7 คู่ และในแต่ละปีก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย !!

...
1. Air Jordan 1 High OG “Bred” (1985)

คู่แรกกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโมเดล Air Jordan 1 วางขายครั้งแรกในปี 1985 หรือ 36 ปีที่ผ่านมา !! เรียกได้ว่าเป็นตำนานและมีมนต์ขลังอย่างมาก และเป็นคู่ที่เหล่านักสะสมทั่วโลกต่างตามหา ส่วนดีเทลของคู่นี้ Swoosh จะใหญ่กว่าตัวปัจจุบัน, Wing Logo ฟอนต์ยังดูกลมๆ ใหญ่ๆ และไม่มีสัญลักษณ์ TM, มีป้ายห้อยเป็นรูปของ MJ และ Tag Nike ตรงลิ้น Swoosh ยังใหญ่ไม่สมส่วน, และที่สำคัญรองเท้าจากปี 1985 จะถูกผลิตที่เกาหลีเท่านั้น*

...
2. Air Jordan 1 Retro High OG “Bred” (1994)

มากับคู่ที่สองที่ทิ้งเวลาห่างจากคู่แรกถึง 9 ปี และยังเป็นการ Retro ครั้งแรกของแบรนด์ Air Jordan นับจากปี 1985 ทำออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีของแบรนด์ Air Jordan ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1984 ถือได้ว่าเป็นรองเท้าผ้าใบที่สำคัญที่สุดตลอดกาล เนื่องจาก Michael Jordan ประกาศเลิกเล่นในเดือนตุลาคมปี 1993 หลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิตในฤดูร้อนของปีนั้น, Swoosh เริ่มปรับให้เล็กลง, Wing Logo เริ่มปรับให้ดูเล็กลง และฟอนต์คมขึ้น, ไม่มีป้ายห้อยรูปของ MJ, บริเวณ Swoosh ถูกปรับวัสดุให้เป็น Nubuck แทนของเดิมที่เป็นหนัง

...
3. Air Jordan 1 Retro High OG “Bred” (2001)

คู่ที่ 3 กับการ Retro ครั้งที่ 2 ที่ทิ้งระยะเวลาห่างถึง 9 ปี จากปี 1994 โดยคู่นี้เริ่มมีการพัฒนาในส่วนของวัสดุให้ดูพรีเมียมและทันสมัยมากยิ่งขึ้น Swoosh แต่ยังคงมีบางส่ววนที่ยังเป็นแบบของปี 1994 อย่างเช่น Swoosh ที่เป็น Nubuck เพิ่มมาคือมีการปักรันนัมเบอร์ที่บริเวณหลังลิ้นรองเท้าและมีจำกัดเพียง 38,345 คู่เท่านั้น, มีที่ห้อยรูป Jumpman สีโครม, กล่องรองเท้าเป็นรูปหน้า MJ, แถมโปสการ์ดรูป MJ ด้วยครับ

...
4. Air Jordan 1 Retro High OG “Bred” / “Banned”(2011)

คู่ที่ 4 กับการ Retro ครั้งที่ 3 ที่ทิ้งระยะห่าง 10 ปี (หากไม่นับปี 2009 ที่อยู่ใน Pack DMP) โดยคู่นี้มีการใส่รายละเอียดมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับดีไซน์และวัสดุให้ใกล้เคียงกับตัว 1985, หนังนุ่มกว่ารุ่นอื่นๆ, มีการสกรีนวันที่ “10.18.85” ก็คือวันที่รองเท้าคู่นี้ถูกแบน, Insole มีการสกรีน “On Octorber 18TH, 1985 They Were Thrown Out Of The Game.” และรูปกากบาทตรงส้นมีการเพิ่มกากบาทสีแดงและบริเวณซับในก็มี เพื่อเป็นการสื่อถึงช่วงที่รองเท้าคู่นี้ถูกแบน (ซึ่งมีการเฉลยแล้วหลังจากนั้นว่าไม่ใช่)

5. Air Jordan 1 Retro High OG “Bred” (2013)

คู่ที่ 5 กับการ Retro ครั้งที่ 4 สำหรับตัวนี้ไม่มีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจเท่าไหร่ และเป็นตัวที่ Sneakerhead ไม่ค่อยชอบเหล่าไหร่ เพัยงแค่มีการใช้ Polyurethane (โพลียูรีเทน) เคลือบรองเท้าเลยทำให้เฉดสีแดงสว่างกว่าตัวอื่นๆ มากนั่นเองครับ

...
6. Air Jordan 1 Retro High OG “Bred” / “Banned” (2016)

คู่ที่ 6 กับการ Retro ครั้งที่ 5 สำหรับตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่นักสะสมในไทยตื่นเต้นแน่นอน เพราะมันคือการกลับมาอีกครั้งของ Air Jordan ในไทย ซึ่งตัวนี้เป็นการกลับมาทำให้คล้ายคลึงกับตัวเดิมมากที่สุดในโปรเจค Jordan Brand “Remastered”, วัสดุที่ใช้นั้นดีกว่าตัวปี 2013 มาก, มีการปั้มไซซ์และโค้ดบริเวณซับในเหมือนตัวปี 1985

...
7. Air Jordan 1 Retro High OG “Bred Patent” (2021)

การกลับมาอีกครั้งรอบล่าสุดของ “Bred” และยังถือว่าเป็นการ Retro ครั้งที่ 6 อีกด้วย ซึ่งการกกลับมาครั้งนี้คือการกลับมาในวัสดุใหม่อย่าง “หนังแก้ว” ซึ่งคู่นี้การดีไซน์หรือวางสีเหมือนกับตัวเดิมทุกประการ เพียงแต่จะมีการแถมที่ห้อยรูป Jumpman สีแดง แทนสีโครมแบบของปี 2001 และการปักคำว่า “Family” ที่บริเวณซับใน ซึ่งมีการเดาว่า มันหมายถึง การร่วมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Jordan Family ระหว่าง Michael Jordan และ Nike !! ซึ่งคู่นี้จะมีกการวางขายในวันที่ 30 ธันวาคมนี้รอได้เลย !!