Café Luxury Brand from around the world. Updated for 2024

Café Luxury Brand รวมคาเฟ่แบรนด์ดังจากทั่วโลก อัปเดต 2024

15/03/2024

...
Café Luxury Brand รวมคาเฟ่แบรนด์ดังจากทั่วโลก อัปเดต 2024

มาดื่มด่ำบรรยากาศสุดแสนจะไฮเอนด์ไปกับคาเฟ่จาก Luxury Brand ที่โด่งดังจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น Dior Prada หรือ Gucci ที่จะพาคุณไปสู่ไลฟ์สไตล์อันลักชัวรี่ย์ที่เราคัดสรรมาให้แล้วว่าไม่ควรพลาดในปี 2024 นี้.. แถมเมื่อต้นปีที่ผ่านมายังมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของประเทศไทยจากแบรนด์ Louis Vuitton กับ Café 'LE CAFÉ LOUIS VUITTON' ณ ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นคาเฟ่แห่งที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถัดจากสิงคโปร์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ที่แบรนด์ไฮเอนด์ต่างๆ จะใช้เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าให้มาสโตร์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง โดยคาเฟ่ Luxury Brand นั้นจะช่วยเปิดประสบการณ์หรูหราให้ผู้ที่มาเยือนไม่ว่าจะเป็น อาหาร ขนม ที่เลอรสจากเชฟฝีมือดังหรือการตกแต่งภายในอันสวยงามเพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟสุดตื่นตาตื่นใจ หากอยากรู้ว่ามี Café Luxury Brand ที่ไหนที่น่าสนใจตามมาอ่านกันได้เลย

...
‘LE CAFÉ LOUIS VUITTON’

แน่นอนว่าต้องเปิดประเดิมที่แรกด้วย 'LE CAFÉ LOUIS VUITTON' คาเฟ่จากแบรนด์ Louis Vuitton ซึ่งเปิดเป็นที่แรกในประเทศไทยเอาใจสายลักชัวรี่ย์เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งคาเฟ่นี้ตั้งอยู่บนทำเลทองใจกลางเมือง LV The Place Bangkok ชั้น 2 ณ ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครฯ บริเวณภายในตกแต่งด้วยสไตล์พืชพรรรณธรรมชาติมีบรรยากาศอันแสนรื่นรมย์ ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ที่ดูทันสมัยของเมซงและมาสคอตวิเวียนที่มีแรงบันดาลใจตีความมาจาก Objets Nomades รับรองว่าคุณต้องได้สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจมองไปทางไหนก็สวยงามและผ่อนคลายในคราเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีเมนูขนมหวาน เค้ก ทาร์ต พาร์เฟต์ ไอศกรีมแซนด์วิช และเครื่องดื่มสุดสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ถูกตกแต่งอย่างอย่างพิถีพิถันมีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง เช่น Monogram Cake เค้กพิสตาชิโอที่ได้ความหอมอ่อนๆ ของกลิ่นส้ม และ Mango Sticky Rice Fizz เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากข้าวเหนียวมะม่วงของไทย โดยใช้น้ำเชื่อมสกัดรสชาติจากข้าวเหนียวมะม่วงมาผสมกับน้ำโทนิคโซดาให้ความสดชื่นแบบใหม่ที่คนไทยต้องประทับใจอย่างแน่นอน

...
‘Gucci Osteria’

ลำดับต่อไปจะพามาชื่มชมบรรยากาศภัตราคารสุดหรูหราจากแบรน์ Gucci กับร้าน ‘Gucci Osteria’ ที่เลือกเปิดตามหัวเมืองแฟชั่น 4 สาขาทั่วโลกนั่นก็คือ 1.เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี 2.เบเวอรี่ ฮิลส์ สหรัฐอเมริกา 3. กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และ 4.กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แต่วันนี้เราจะขอมาแนะนำของสาขาที่อยู่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพราะบรรยากาศร้านนั้นทำให้ครุ่นคิดถึงความเป็น Gucci ได้อย่างลงตัวด้วยตกแต่งได้ภายในที่ให้บรรยากาศเหมือนเทพนิยายมีขนาดกว้างขวางหรูหรา เพดานสูง หลังคากระจก และจัดไฟอย่างสวยงาม พร้อมจัดวางของตกแต่งที่มีสไตล์ Gucci Décor ทำให้รำลึงถึงถึงยุคเรอเนซองส์ของอิตาลีที่มีลายพิมพ์ผีเสื้อและดอกไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพและความสวยงามผสมผสานกับต้นไม้ล้อมรอบที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปในตัว และอีกหนึ่งความพิเศษของสาขานี้จะอยู่ที่การผสมผสานกันระหว่างศาสตร์และศิลป์ของอาหาร ระหว่างอาหารอิตาเลียนกับอาหารญี่ปุ่นนั่นเอง รับรองว่าคุณจะได้เห็นอาหารญี่ปุ่นที่คุ้นตา แต่มาในรูปแบบรสชาติที่แปลกใหม่ รวมไปถึงขนมหวานและเบอเกอรี่ต่างๆ ที่มีกลิ่นอายของขนมญี่ปุ่นอีกด้วย ใครเป็นสาวก Gucci พลาดไม่ได้ต้องไปลองให้ได้สักครั้ง

...
‘Blue Box Café by Daniel Boulud’

มื้อเช้า Breakfast at Tiffany’s ที่มีอยู่จริง! กับ ‘Blue Box Café by Daniel Boulud’ จาก Tiffany & Co. แบรนด์จิวเวลรี่ระดับตำนานจากสหรัฐอเมริกาเปิดคาเฟ่ที่มี DNA ตะโกนคำว่า Tiffany’s ได้ดีมากๆ กับโทนสีฟ้าจางประกายเขียวคล้ายไข่นกโรบินส์และกลีบดอก Forget me not อันเป็นเป็นเอกลักษณ์ หรือที่เรารู้จักกันในนามสีฟ้าทิฟฟานี่นั่นเอง โดย Blue Box Café แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ชั้น 6 ของ Tiffany & Co. The Landmark ถนน Fifth Avenue มหานครนิวยอร์ก ซึ่งทุกพื้นที่ของ Blue Box Cafe แห่งนี้จะเน้นการตกแต่งในแบบคอนเทมโพลารีร่วมสมัยและเน้นใช้สีฟ้าสไตล์ทิฟฟานี่ตั้งแต่ผนังเก้าอี้ ผนังหินอ่อน โซฟา เบาะรองนั่ง ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ทั้ง เครื่องจานกระเบื้อง และขวดเกลือ พริกไทย ที่เน้นน้ำหนักไปทาง Tiffany Blue ทั้งหมดและใช้สีขาวมาตัดเพื่อความเรียบหรูสบายตาตัดสลับกับวิวเซ็นทรัล พาร์ค นอกหน้าต่างได้อย่างลงตัว เหมาะแก่การมาทาน Brunch กินเซ็ตน้ำชายามบ่าย หรือจะเป็นเมนูอาหารแบบอเมริกันสไตล์ก็มีเสิร์ฟด้วยเช่นเดียวกัน เริ่มต้นในราคาเบาๆ เพียง 29$ หรือราว 980 บาท หากทานอิ่มแล้วก็สามารถไปช้อปปิ้งเครื่องประดับต่อได้สบายๆ หากใครยังไม่เคยไปต้องห้ามพลาดเพราะคุณจะได้ซึบซับบรรยากาศความเป็น Tiffany & Co. ในมุมมองใหม่ที่จับต้องได้ง่ายๆ ผ่านคาเฟ่ Luxury Brand แห่งนี้นี่เอง

...
‘Bar Luce by Prada, Milan’

คาเฟ่ต่อไปขอบอกว่าสายวินเทจพลาดไม่ได้กับ ‘Bar Luce’ จากแบรนด์ Prada คาเฟ่สีหวานละมุนกลางกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ที่มีผู้กำกับหนังชื่อดังอย่าง Wes Anderson มารีโนเวทให้ จากอาคารเก่าสู่การสร้างคาเฟ่และร้านอาหารภายในศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมแห่งใหม่ของแบรนด์ Prada โดยมีเอกลักษณ์เลอค่าทางศิลปะคือการใช้คู่สีที่โดดเด่นของ Wes Anderson ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีที่จะทำให้บรรยากาศ Café Luxury Brand แห่งนี้มีความอบอุ่นและยังคงความคลาสสิคตามแบบฉบับของเมืองมิลานได้เป็นอย่างดี จากคู่สีผสมผสานระหว่าง สีน้ำตาล สีชมพู และ สีเขียวพาสเทล นำมาใช้ร่วมกับเคาน์เตอร์บาร์ เฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์วินเทจ รวมถึงเพิ่มกิมมิคความคลาสสิกจากตู้เกมพินบอล และตู้เพลงเก่า วางตกแต่งอยู่ภายในบริเวณร้านด้วย หากใครที่ชื่นชอบลิ้มรสบรรยากาศอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ที่ทำให้เคลิ้มไปกับบรยากาศเก่าๆ สไตล์วินเทจลักชัวรี่ย์ของอิตาลีในยุคปี 1950s ต้องห้ามพลาดเพราะที่นี่เหมาะแก่การไปสักครั้งในชีวิต

...
‘Dior Pop-Up Store With Café’

มาต่อกันที่สุดท้ายเราจะพามาเยือนคาเฟ่สุดหรู่ที่อยู่ไม่ไกลไม่ไกลเชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยไปเช็คอินมาบ้างแล้ว แต่หากใครที่ยังไม่เคยไปและอยากเก็บคาเฟ่สาย Luxury Brand โซนเอเชียจะพลาดไม่ได้เพราะคาดว่าจะเปิดให้บริการถึงแค่กลางปี 2025 นี้ นั่นก็คือ ‘Café Dior’ คาเฟ่ที่อยู่ภายใน Pop Store แบบ Glasshouse สุดหรูหราจากแบรนด์ Dior บอกเลยว่าใครชื่นชอบบรรยากาศอลังการงานสร้างที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ดอกไม้แสนหวานสไตล์สาวปารีเซียงจากดิออร์จะพลาดไปไม่ได้ ซึ่งคาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ย่านไฮด์สตรีทแฟชั่น Seongsu-dong กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีความยิ่งใหญ่หรูหรายิ่งใหญ่ฉีกกฎคำว่าป็อปอัพสโตร์แบบสุดๆ เพราะมีรูปด้านนอกอาคารที่ถอดรูปแบบมาจาก 30 Montaigne ร้าน flagship store เก่าแก่กลางปารีสเลยทีเดียว ภายในแบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนขายสินค้าของแบรนด์ Dior เช่น ไอเทมแฟชั่น กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า และอื่นๆอีกมากมาย ส่วนโซนที่ 2 อยู่ภายด้านหลังข้างในจะเป็น Café Dior ตกแต่งในธีมสวนดอกกุหลาบที่ Granville บ้านเกิดของมงซิเออร์ คริสเตียน ดิออร์ โดยใช้เทคนิคดิจิตอลเนรมิตขึ้นมาโดยฝีมือนักออกแบบชาวเกาหลีนั่นเอง ในส่วนของขนมและเครื่องดื่มต่างๆ ก็อร่อยไม่แพ้กันราคานั้นเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 700 บาทเท่านั้นเอง!

สรุป

และทั้งหมดนี้คือคาเฟ่จาก Luxury Brand ดังจากทั่วทุกมุมโลก ที่จะพาคุณไปดื่มด่ำสู่ไลฟ์สไตล์อันลักชัวรี่ย์ที่เราคัดสรรมาให้แล้วว่าไม่ควรพลาดในปี 2024 นี้ และหากคุณสนใจอยากติดตามเนื้อหาข่าวสารเกี่ยวกับ Luxury Brand สินค้าแบรนด์เนมอื่นๆ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์: www.sasom.co.th หรือดาวน์โหลด SASOM Application: https://sasom.onelink.me/xn2K/o1oieutk และอ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่: https://sasom.co.th/articles