Ready? Let’s Greeting Jordan 1 Retro High OG Lost and Found

เรื่องที่ต้องรู้คู่รองเท้า Jordan 1 Retro High OG Lost and Found

17/11/2022

...

นับตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เราได้ผ่านปรากฏการณ์ Travis Scott กันไปแล้ว แต่ทันทีที่ข่าวเรื่องรองเท้าคู่นี้ออกมา ก็กลายเป็นตัวแย่งซีนไปโดยปริยาย Jordan 1 Retro High OG Lost and Found เป็นรองเท้าอีกหนึ่งคู่ที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตาคอยมานานจนเกือบไปแล้วว่าความปังรออยู่ในช่วงสิ้นปี แถมดีเทลของรองเท้าผ้าใบคู่นี้ก็ช่างคีพคอนเซ็ปต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบจนเกือบจะเผลอเชื่อแล้วว่ามาจากยุค 80-90 จริงๆ งานนี้ จะลุ้นระทึกขนาดไหน ไปติดตามกันได้เลย!

รองเท้าคู่ใหม่ในห้องเก็บสต็อคที่ฝุ่นเขรอะจากยุค 90s — แรงบันดาลใจของ Jordan 1 Retro High OG Lost and Found

“เบาราวกับว่าไม่ได้ใส่ ตกแต่งวัสดุให้ดูเหมือนเก่าเก็บมาหลายอยู่ในกล่อง” แค่ฟังประโยคนี้หลายคนก็อาจจะหลอนและตั้งคำถามว่า “เอ๊ะ นี่เราจะได้ของเก่ารึเปล่านะ” ขอบอกเลยว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะแท้จริงแล้ว รองเท้า Jordan 1 Retro High OG Lost and Found นั้นได้แรงบันดาลใจสุดล้ำค่าที่ชวนให้เราหวนคิดถึงยุคสมัยที่ Jordan 1 Og Chicago (1985) พึ่งจะเปิดตัวได้ใหม่ๆ, ภาพบรรยากาศท้องถนนยุค 90s, แฟชั่นที่สีเตะตาอย่าง แดง ดำ ขาว ยังเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนรักการแต่งตัว ตลอดจนกลิ่นอายของร้านรองเท้าเล็กๆ ที่ยังใช้ห้องใต้ดินเป็นสต็อคสินค้า...ทั้งหมดที่กล่าวถึงนี้ถูกถ่ายทอดลงใน Jordan 1 Retro High OG Lost and Found ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาราวกับว่าเกิดในยุคนั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแฟชั่นสไตล์ Retro ที่มักนำกลับชุบชีวิตอีกครั้งในรองเท้ายุคใหม่นั้นมักจะเชื่อมโยงหรือผูกสัมพันธ์เรื่องราวบางอย่างจากอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสี Chicago ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นเหมือนร่างทรงดีๆ เลยก็ย่อมได้ (ยกตัวอย่างเช่น Air Jordan 1 High OG “Origin Story” ที่เป็นการฉลองให้แก่ภาพยนตร์เรื่อง Spider Man: Into the Spider-Verse นั่นเอง)

แน่นอนว่ารองเท้า Jordan 1 Retro High OG Lost and Found คู่นี้ก็เป็นร่างทรงให้แก่รุ่น 1985 อย่างที่เราเข้าใจกัน โดยอาจจะอธิบายแรงบันดาลใจง่ายๆ ดังนี้ ฟีลลิ่งเหมือนกับว่าเราไปค้นห้องเก็บสต็อครองเท้าเก่าๆ เปรอะเขรอะด้วยฝุ่น ค้นไปค้นมา แล้วเราก็ดันไปเจอรองเท้า Jordan 1 Og Chicago (1985) ในสภาพ Brand New แต่ทว่าด้วยระยะเวลาที่ผ่านมานานกว่า 40 ปี พอมาเจอตอนนี้ แม้จะเป็นคู่ใหม่แต่สภาพก็เลยดูเก่าไปสักหน่อย เช่น หนังแตก พื้นรองเท้าเหลือง อย่างไรก็ตาม มันก็ยังทรงคุณค่าอยู่ดี… นี่แหละ แรงบันดาลใจของรองเท้า Jordan 1 Retro High OG Lost and Found และบอกเลยว่าถ้าไปดูดีเทลด้านล่างนี้ รู้เลยว่าเขาคิดมาแล้ว!

Swoosh ใหญ่เป้งและ Ankle Collars ที่แตกยับ!

หลายคนพอเห็นปั้บก็อาจจะตกใจกลัวหรือโบกมือไปเลย แต่ขอบอกเลยว่าการที่ไนกี้ทำส่วนเหล่านี้ให้มีลักษณะแปลกๆ แบบนี้ไม่ใช่นั่งเทียนดีไซน์เด้อ เพราะเขาคิดมาแล้ว ถ้าพูดถึงแฟชั่นสไตล์ Retro ซึ่งเป็นการชุบชีวิตดีไซน์เก่าๆ ให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง การใช้อะไรที่ดูแบบ “เห็นแล้วต้องทึ่ง” หรือโดดเด่นเห็นปุ๊บรู้ปั๊บ ก็นับว่าเป็นสไตล์ในช่วงยุค 80-90 เลยทีเดียว ดังนั้น Swoosh ที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ไม่ต้องตกใจได้เลย เพราะเขากำลังเลียนแบบ OG 1985 มาต่างหาก! เรียกได้ว่าเล่าเรื่องกันตั้งแต่ Swoosh เลยทีเดียว!

ส่วน Ankle Collars ที่แตกยับ ใครหลายคนเห็นแล้วขัดใจ ก็เป็นอีกหนึ่งงานดีไซน์ที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์สำหรับรุ่นนี้เลย ถ้าคุณลองจินตนาการว่าคุณเก็บรองเท้าคู่หนึ่งในตู้เป็นระยะเวลาสักสิบยี่สิบ แล้วเปิดออกมาดูใหม่จะเกิดอะไรขึ้น? แน่นอนว่าหนังก็ต้องแตกยับเป็นธรรมดา! และส่วนนี้เองจึงเป็นแรงบันดาลใจให้สร้างส่วนของหนังบริเวณ Ankle Collar ให้ดูมีความเก่าๆ แตกๆ สักหน่อยเพื่อความย้อนยุค และแน่นอนว่าแฟนพันธุ์แท้ด้านสนีกเกอร์หลายคนคงมองออกได้ตั้งแต่แวบแรกว่ารองเท้า Jordan 1 Retro High OG Lost and Found คู่นี้เหมือนตัว 1985 มากๆ เลยโดยเฉพาะส่วนนี้

ยังไม่ทันใส่ Midsole ก็เหลือง หนังปลายรองเท้าก็ดูแห้งๆ ยับยู่ยี่!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคหลังๆ นี้ ถ้าไนกี้เริ่มด้วยคำว่า Retro เอย หรือ Vintage เอยขึ้นมา สนีกเกอร์เฮดหลายคนคงพอจะฟันธงได้เลยว่า งานนี้หนังเหลืองแน่เลย เช่นเดียวกันกับ Jordan 1 Retro High OG Lost and Found ที่มาพร้อมกับหนังบริเวณ Midsole ที่เหลืองมาตั้งแต่ต้น (แม้จะไม่ได้เหลืองอ๋อยแบบยุคเก่าจริงก็เถอะ) โดยสีเหลืองบริเวณพื้นนั้นเป็นการตกแต่งให้ดูคล้ายกับกระบวนการ Oxydation ของพื้นรองเท้าที่พอเก็บรักษาเป็นระยะเวลานานก็มักจะเหลืองขึ้นมาได้ ดังนั้น ไม่ต้องโวยวายว่าไม่ได้ของเก่า เพราะเขาได้แรงบันดาใจมาจากของเก่าเฉยๆ !

และอีกหนึ่งส่วนที่พลาดไม่ได้สำหรับ Jordan 1 Retro High OG Lost and Found นั่นก็คือ บริเวณ Sole โดยในส่วนนี้อาจจะต้องใช้ตามากกว่าเดิมหน่อย ต้องใช้วิชาเนตรมารเพ่งเข้าไป เราจะเห็นได้ว่าหลายส่วนของรองเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วน Toe หนังจะมีความแห้งแตกระแหงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้เรานึกถึงรองเท้าที่ค้างสต็อกมานาน พอทิ้งไว้นานวันเข้าน้ำมันในหนังก็เริ่มระเหยออกไป ทำให้หนังเริ่มแห้งและแตกออก ไปจนถึงมีฝุ่นเกาะ ว่ากันว่าในส่วนนี้ นักออกแบบรองเท้าถึงขั้นศึกษาเลยว่าน้ำมันในหนังมันออกมาในลักษณะหรือรูปแบบใดจนทำให้มันกลายเป็นรอยแห้งและแตกเล็กๆ แบบนี้ แน่นอนเพื่อดีเทลละเอียดประณีต และสมบูรณ์ ก็ต้องลงทุนกันหน่อย ไปให้สุด!

พี่จ๋า…มีใบอะไรก็ไม่รู้ แถมกล่องผิดรึเปล่า?! | กิมมิคเล็กน้อยที่กล่องรองเท้า

บางครั้งก็แอบคิดว่าเป็นหมอดูน่าจะรุ่ง เพราะแค่จะเล่าถึงดีเทลตรงนี้ ก็เริ่มได้ยินเสียงผู้คนเริ่มโวยวายเรื่องกล่องรองเท้าของ Jordan 1 Retro High OG Lost and Found แล้ว ทันทีที่คุณได้รับรองเท้าคู่นี้มา ขอความกรุณาอย่าพึ่งตกใจหรือโหวกเหวกไปก่อน เพราะรองเท้ารุ่นนี้ ไนกี้ตั้งใจให้ฝากล่องกับกล่องมาแบบไม่ตรงกัน! ถ้าหากถามว่าเพราะอะไร เราต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ยังเป็นร้านรองเท้ายุค 90s ที่สต็อคยังไม่เป็นโกดังใหญ่โต เป็นเพียงห้องเก็บของเล็กๆ ชั้นใต้ดินเท่านั้น การจัดเรียงสต็อคยังไม่ได้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีนัก กล่องนี้ใช้ฝานั้น กล่องนู้นใช้ฝาโน้น ก็อาจจะปนกันจนเวียนหัวได้ และตรงจุดนี้เองเลยกลายเป็นกิมมิคของเจ้า Lost and Found นี้เอง แต่ยังไม่หมดเท่านี้เพราะลวดลายบนกล่องทางไนกี้ เขาก็ยังอยากคีพคอนเซ็ปต์ถูกเก็บมานาน ถูกย้ายไปโยกมาในห้องสต็อกเลยอาจมีลอยขีดข่วนได้ กล่องรองเท้าคู่นี้เลยได้รับการตกแต่งให้เหมือนมีรอยสีถลอกทั่วบริเวณของกล่อง

นอกจากนี้ กิมมิคสุดท้ายที่พร้อมจะมัดใจสนีกเกอร์เฮดทุกคน นั่นก็คือ กระดาษห่อและใบเสร็จซึ่งจะทำให้ทุกคนย้อนกลับไปสู่โลกอนาล็อกอีกครั้ง บอกลาความหรูหรากระดาษขาวสะอาดตาและหมึกพิมพ์สีน้ำเงินได้เลย เพราะต้องย้อนกลับไปยุคที่อินเตอร์เน็ตยังลุ่มๆ ดอนๆ ไม่ก้าวหน้า ใบเสร็จก็ยังใช้กระดาษพิมพ์สีเหลืองแบบเขียนแล้วฉีก รวมไปถึงกระดาษห่อรองเท้าที่ใช้ในรุ่น Jordan 1 Retro High OG Lost and Found ก็เก๋ไม่ได้หยุด ยังคงคีพคาแร็คเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แน่นอนว่ายุคสมัยนั้นไม่ได้วิลิศมาหราอะไรมากมาย เป็นแค่กระดาษหนังสือพิมพ์หรือโปสเตอร์ที่ไม่ได้เป็นพิมพ์สี่สี แต่เป็นการพิมพ์ขาวดำ ไนกี้เลยจัดการใช้กระดาษห่อรองเท้ารุ่นนี้ด้วยลวดลายแบบเดียวกันพร้อมลายพิมพ์โฆษณารองเท้า Air Jordan ลดราคาไปเลย ให้ฟีลลิ่งเหมือนซื้อรองเท้าตามร้านขายของชำยุคเก่าเลยล่ะ!

สรุป

ขอทิ้งท้ายก่อนจะจากกันไป สะสมมั่นใจว่าหลายคนคงตัดสินใจได้แล้วว่าศึกนี้คุ้มค่าแก่การลงสนามเองหรือไม่ แต่ขอบอกเลยว่าตำนานแบบนี้ไม่ได้มีให้เราได้เห็นกันบ่อยๆ ใครพร้อมจะลุยแล้ว 19 พ.ย. 65 นี้เจอกันได้ในราคาป้าย แต่หากใครไม่ขอเสี่ยง อยากได้แบบไม่ต้องลุ้น มากดพรีออเดอร์หรือช้อปที่ SASOM ได้ เพราะ Jordan 1 Retro High OG Lost and Found พร้อมให้ทุกคนช้อปอยู่บนเว็บแล้ว!