Keep It High like Chicago!

บทเรียนราคาแพง! อยากได้ตำนานความ OG Chicago ต้องจัดเท่าไหร่!

16/11/2022

...

เป็นที่รู้กันในหมู่สนีกเกอร์เฮดว่าตำนานของวงการรองเท้าผ้าใบ สีที่ร้อนแรงดุดันทั้งโทนและเฉดก็คงไม่พ้นสี Chicago ซึ่งขนานนามว่าเป็นราชาแห่ง Colorway เลยก็ย่อมได้ เพราะออกมาไม่นานสักแปปก็หมด ออกมาทุกปีก็ขายดีทุกปี แล้วยิ่งรุ่นไหนที่เก็บไว้มานานก็จะกลายเป็นสมบัติติดบ้านทันทีเลย ขอสปอยเลยว่าบางคู่ถึงหลักล้านแล้วจ้าา วันนี้ SASOM (สะสม) เลยอยากพาทุกคนมาดูรองเท้าสี Chicago กันว่าแต่ละคู่นั้นพุ่งสูงไปถึงขนาดไหนแล้ว

Jordan 1 Og Chicago (1985)

เริ่มต้นกันที่นานความ OG แบบต้นตำรับกันก่อนเลยกับ Jordan 1 Og Chicago (1985) ที่ผ่านมาแล้วกว่า 40 ปี แต่ก็ยังคงเฉิดฉายและเด่นดัง ซึ่งมาพร้อมกับราคาที่สูงลิ่วเกินคำบรรยาย หากถามถึงสาเหตุว่าทำไมคู่นี้มันปังปุริเย่ ก็คงไม่ต้องสงสัยเลย เพราะเป็นต้นกำเนิดของตำนานให้รุ่นหลังๆ รวมถึงเป็นคาม OG ที่มีมานานกว่า 40 ปีให้อารมณ์เหมือนร้านอาหารเจ้าดังที่ขายดิบขายดีมานาน โดยปัจจุบันนี้ราคาจะอยู่ที่ 1,151,400 หรือคิดเป็น 45,965% จากราคาป้ายที่มีราคาเพียง 2,500 บาทเท่านั้น! โอ้โห…ใครจะไปเชื่อว่ารองเท้าคู่เดียวก็เกือบจะเท่าราคาคอนโดได้แล้ว และหากถามว่าถ้าหาได้เหมาะแก่การลงทุนหรือไม่ ก็บอกได้เลยว่าเหมาะมากๆ เพราะด้วยจำนวนการผลิตที่ไม่ออกมากมายนักในยุคสมัยนั้น บวกกับความต้องการในยุคปัจจุบันนี้ แน่นอนว่าใครก็ต้องการของ OG กันทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ได้เอาไว้ใส่นะ เอามาตั้งโชว์แล้วขายในวันที่ควรค่าแก่การเก็งกำไรต่างหาก (แม้ตอนนี้จะได้กำไรมากแล้วก็ตาม) มั่นใจได้เลยว่านานวันเข้า เจ้า Jordan 1 Og Chicago (1985) ที่เป็นเหมือนวัตถุโบราณอันทรงคุณค่านี้ จะต้องราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ใครมีไว้ในครอบครองเก็บไว้ให้ลูกหลานดูได้เลยว่าครั้งหนึ่ง ทวดเคยมีสมบัติล้ำค่าไว้ตู้!

Jordan 1 Retro High Chicago (1994)

แน่นอนว่าหลังจากคู่ Jordan 1 Og Chicago (1985) ที่วางขายในช่วงแรกประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น จนทำให้สินค้าเข้าสู่สภาวะขาดตลาด ทางไนกี้จึงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการผลิตรุ่นลูกหลาน Chicago ขึ้นมาเพื่อตอบสนองแก่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือรองเท้า Jordan 1 Retro High Chicago (1994) ที่แม้ว่าจะไม่ได้ราคาโดดเด่นขนาดตัว OG แต่ก็สูงพอให้หลายคนขนหัวลุกได้เหมือนกัน โดยราคาป้ายจะอยู่ที่ 3,000 บาท ส่วนราคาเฉลี่ยแม้ไม่ถึงหลักล้านแต่ก็เหยียบแสนซึ่งจะอยู่ที่ 143,065 หรือคิดเป็น 4,688.53% จากราคาป้าย สำหรับคู่นี้หากถามว่าเหมาะสมแก่การลงทุนไหม หากพูดตามตรงสี OG อย่าง Chicago ก็ล้วนแต่เหมาะแก่การลงทุนทั้งสิ้น ซึ่งอาจจะมีคติประจำรองเท้าคู่นี้ได้ว่า “ยิ่งเก่า ยิ่งดี” เพราะไม่ใช่เพียงแต่ราคาจะขึ้นทุกปี แต่ยังหมายถึงความทรงคุณค่า ความแรร์ด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องพึงระวังคือ สภาพของทุกอย่างไม่ได้อยู่สภาพเดิมตลอดกาล ยิ่งเก่าก็อาจจะยิ่งความสึกกร่อนหรือทรุดโทรมตามกาลเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกาวและวัสดุยางต่างๆ ดังนั้นใครจะซื้อมาเก็บหรือเก็งกำไร รับรองเลยว่าไม่ติดดอยแน่นอน มีแต่ขึ้นกับขึ้น!

Jordan 1 Retro High Chicago (2013)

ต่อกันที่อีกหนึ่งลูกหลานสายเลือดชิคาโก้กันต่อเลย กับ Jordan 1 Retro High Chicago (2013) บอกเลยว่าเลือดเขาแรงจริงๆ ซึ่งหมายรวมถึงราคาด้วย แม้จะเปิดตัวมาหลังยุค 2000 แล้ว แต่ความ OG ก็ยังไม่เสื่อมถอยและยังสร้างความหวาดหวั่นระทึกขวัญเรื่องราคาได้เหมือนกับรุ่นบรรพบุรุษ สำหรับคู่นี้ หากพูดถึงในแง่ลงทุน แม้จะเป็นรุ่นจิ๋ว แต่ก็แจ๋วใช้ได้ เพราะถ้าได้ราคาป้ายซึ่งเป็นเพียงแค่เลขสี่หลัก ปัจจุบันนี้ดันไปจบที่เลขห้าแล้ว โดยราคาแรกเริ่มจะอยู่ที่ 4,300 บาท ส่วนราคาเฉลี่ยปัจจุบันนี้พุ่งไปถึง 36,351 บาทหรือคิดเป็น 745.37% จากราคาป้ายแล้ว อย่างที่บอกไปว่าถ้าได้รองเท้าสีนี้มา ควรจะทะนุถนอมน้องๆ เขาหน่อย เพราะถ้าเกิดวันนึง เราอยากขายน้องไป จะได้ราคาที่ดีๆ สักหน่อย แต่ถ้าใครอยากเก็บไว้ขึ้นหิ้ง ก็ระวังเรื่องสภาพอากาศในการเก็บรักษาด้วย ไม่เช่นนั้น สมบัติที่มีอยู่อาจหลุดลอกและเสื่อมสภาพได้!

Jordan 1 Retro High OG Chicago (2015)

ต่อกันที่อันดับสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดแห่งความ OG กับรองเท้า Jordan 1 Retro High OG Chicago (2015) ที่ออกมาถัดจากคู่เดิมแค่สองปีเท่านั้น แน่นอนว่ารองเท้าคู่นี้ยังเป็นสิ่งการันตีได้เลยว่าสี Chicago เมื่อสองปีก่อนนั้นขายดีขนาดไหน สำหรับคู่นี้ก็ยังมาในเฉดสีเดิม ขาว-ดำ-แดง อีกเช่นเคย เรียกได้ว่าใช้ได้ไม่มีเบื่อจริงๆ ส่วนเรื่องราคานั้นแม้จะมาหลัง แต่ก็ฟาดได้แบบจุกๆ เหมือนกัน เพราะแรกเริ่มเดิมทีราคาป้ายจะอยู่ที่ 5,800 บาท แต่พอมาดูตอนนี้ ราคาเฉลี่ยขึ้นสูงไปถึง 79,900 บาท หรือคิดเป็น 1,277.58% บาทแล้ว ทำไปทำมาเกือบจะแตะแสนแล้วเหมือนกัน แน่นอนว่าหลายคนพอได้คู่นี้มาก็ต้องเอาไปใส่ให้โลกรู้สักหน่อยแหละ จะเก็บในตู้ก็กลัวน้องเหงา แต่ถ้าใครอยากเก็บไว้เก็งกำไรเป็นอีกช้อยส์ที่ดีเลยทีเดียว เพราะผลิตไม่นาน วัสดุก็ยังพอแข็งแรงยืดอายุไปได้ไกลหน่อย ขนาดราคาต้นๆ ยังเท่านี้ ต่อไปจะพุ่งสูงขนาดไหนกันเชียว!