Hidden History of Nike Air Max 97 Silver Bullet

“รถไฟหัวจรวด บ่อน้ำ และคอรัปชั่น” เปิดหน้าประวัติศาสตร์ Nike Air Max 97 OG Silver Bullet

10/11/2022

...

สีเงินเมทัลลิคสลับกับสีเทาวาววับ Colorway ที่ถือได้ว่าเป็นความเรียบหรูระดับ OG แห่งยุค 90 อย่าง Silver Bullet กำลังจะกลับมาอีกครั้งแล้ว แน่นอนว่าเรื่องราวของรองเท้ารุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นตำนานแห่งยุค Y2K เลยทีเดียว มีอยู่ยุคหนึ่งที่ผู้คนออกตามหากันให้ทั่ว แต่การจะเป็นตำนานไม่ใช่เกิดเพียงแค่ข้ามวัน หากแต่ต้องสั่งสมมานานถึงสองทศววรษ และเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ของ Nike Air Max 97 เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปดูจุดเริ่มแรกของเจ้ารองเท้าผ้าใบรุ่นนี้กัน บอกเลยว่าเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ สู่โลกสนีกเกอร์ทั้งใบ

...
กาลครั้งหนึ่งจากรถไฟหัวจรวดและน้ำหนึ่งหยด รวมกันกลายเป็นรองเท้าผ้าใบ

ก่อนจะถึงช่วงยุคที่ Nike Dunk จะเข้ามาครองอำนาจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารองเท้าผ้าใบรุ่นนี้เคยครองตำแหน่งมาก่อน นั่นก็คือ รองเท้าผ้าใบ Nike Air Max 97 Silver Bullet ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 ออกแบบโดย Christian Tresser นักออกแบบรองเท้ามือฉมัง ซึ่งในยุคนั้นเขาก็แทบจะกุมโลกสนีกเกอร์ได้ทั้งใบอยู่แล้ว โดยรองเท้ารุ่น Nike Air Max 97 Silver Bullet นี้ ว่ากันว่าได้แรงบันดาลใจมาจากรถไฟหัวกระสุนของประเทศญี่ปุ่น จากนั้น ศิลปินหนุ่มผู้นี้ก็นำแรงบันดาลใจมาผสานกับไอเดียสร้างสรรค์จากระลอกคลื่นในบ่อน้ำจนกลายมาเป็นรองเท้ารุ่นฮิตนี้ เราจะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่แวบแรกเลยว่าดีไซน์รองเท้านั้นมีลักษณะเป็นวงคลื่นกระจายออกมาเป็นระลอกตาม Upper มาพร้อมกับเฉดสี Metallic Silver เงาวาววับ

แต่อะไรคือสาเหตุที่เขาเลือกสีเงินสะดุดตาเช่นนี้มาเป็น Colorway รองเท้า ทำไมไม่เป็นสีที่ดูพื้นๆ เรียบง่าย แถมการันตีได้ว่าขายออกอย่างแน่นอน คำตอบเรื่องนี้ง่ายปานปอกกล้วยเข้าปาก Tresser เลือกเฉดสีนี้ก็เพราะมันดันเชื่อมโยงกับกิจกรรมที่เขาชอบมากที่สุด นั่นคือ การปั่นจักรยานเสือภูเขา แน่นอนว่าถ้าให้เทียบจักรยานในยุค 90s กับยุคปัจจุบัน ย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน โดยจักรยานวิบากจากยุค 90 นั้นอุปกรณ์ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ฉูดฉาดนัก มักจะเป็นสีไททาเนียมหรือสีเงิน ซึ่งพอเอาสีเงินเมทัลลิคมาแต่งเติมรองเท้า Nike Air Max 97 Silver Bullet ก็เข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบซ่อนเชือกรองเท้าที่ดูเก๋ไก๋ด้วย แน่นอนว่าพอวางขายปั๊บ ผู้คนก็เริ่มพูดถึงกันเพราะถือว่าเป็นอะไรที่ “แปลกใหม่แหวกแนว” หรือบางครั้งผู้คนก็แซวเล่นว่า “เหมือนซากยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว” แต่ถึงจะหยอกเย้าเล่นร้ายกาจ (แนวประหลาดๆ) เพียงใด ผู้คนคนก็หลงรักรองเท้ารุ่นนี้มากพอๆ กับจำนวนดาวในอวกาศเช่นกัน แต่หากพูดถึงประเทศใดที่รักและหลงใหล Nike Air Max 97 Silver Bullet มากที่สุดก็คงไม่พ้นอิตาลี…

จากสไตล์เสือภูเขา…กลายเป็นรองเท้าต่อต้านคอรัปชั่น…สู่ 20 ปีแห่งความสำเร็จกับ Nike Air Max 97 Silver Bullet

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารองเท้าผ้าใบหลายรุ่นมักจะเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมย่อยไม่กลุ่มใดก็กลุ่มหนึ่ง แรปเปอร์ก็ดี บาสเก็ตบอลก็ดี แต่สำหรับ Nike Air Max 97 Silver Bullet ดันไม่ธรรมดา เพราะดันไปเกี่ยวโยงกับ “การเมือง” จนนำไปสู่แฟชั่นที่แพร่สะพัดทั่วสหภาพยุโรป โดยเริ่มต้นจากประเทศอิตาลี เพราะในยุคที่รองเท้าไนกี้ Air Max 97 วางขายนั้นดันประจวบเหมาะกับช่วงต่อต้านคอรัปชั่นของประเทศอิตาลีพอดี โดยปฏิการที่พร้อมแฉการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เด่นดังสุดๆ ก็คือ Mani Pulite หรือที่เราเรียกกันว่า Clean Hands Operation แน่นอนว่าคนที่ออกมาเรียกร้องพร้อมเดินขบวนต่อต้านทั่วเมือง Naples และกรุงโรม ก็คงไม่พ้นวัยรุ่นสมัยใหม่ ซึ่งพร้อมจะกำจัดสิ่งไม่ดีทิ้งไปเพื่อก้าวใหม่ที่ดีกว่าให้แก่ชาวอิตาเลียน งานนี้ เพื่อแหกกฎเดิมๆ พวกเขาก็ต้องหารองเท้าอะไรสักคู่ที่ไม่ได้เป็นของอิตาลี หวยก็เลยตกที่ Nike Air Max 97 Silver Bullet ทำให้เหล่าดีเจ ศิลปิน Graffiti และวัยรุ่นยุคใหม่ต่างก็เลือกที่จะสวมใส่รองเท้าผ้าใบรุ่นนี้เพื่อสะท้อนว่าอนาคตของอิตาลีจะต้องสว่างไสวและดีกว่าเดิม ซึ่งทุกคนต่างตั้งฉายารองเท้านี้ว่า Le Silver แต่ถ้าถามว่าทำไมต้องรองเท้าคู่นี้ ก็คงต้องอ้างอิงตามที่ Sabrina Ciofi ผู้เป็นบรรณาธิการแฟชั่นนิตยสาร Sport & Street Collezioni ในยุค 90 ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “เอาจริงนะ สำหรับฉัน ถึงรองเท้านี้มันค่อนข้างอัปลักษณ์และดูไม่มีรสนิยม แต่มันก็สะท้อนวัฒนธรรมกระแสหลักของชาวอิตาเลียนได้ดีที่สุด”

หลังจากที่เหตุการณ์วุ่นวายจบลงไป ก็กลายเป็นว่ารองเท้าคู่นี้ก็กลายเป็นไอเท็มคู่ตู้รองเท้าชาวยุโรปไปเสียแล้ว และก็กลายเป็นที่พูดถึงและเป็นที่ต้องการมาอย่างยาวนานจนครบรอบ 20 ปี Nike จึงเฉลิมฉลองด้วยการออกรองเท้ารุ่น Nike Air Max 97 Silver Bullet (2016/2017) เพื่อเป็นการย้อนประวัติศาสตร์ความสำเร็จตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมาทั้งในอิตาลีและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แต่เรื่องราวก็ผ่านมาถึง 5 ปีแล้วก็คงถึงเวลาที่ต้องฉุดกระชากลากขึ้นมาจากตู้ให้มีลมหายใจอีกครั้ง…

เตรียมฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในปี 2022 ยุค Dunk ครองเมือง

และแล้วก็ถึงเวลาอันควรที่ Silver Bullet จะกลับมาทวงตำแหน่งคืนอีกครั้ง เนื่องในโอกาสสำคัญอย่างครบรอบ 25 ปี Nike Air Max 97 ไนกี้ก็ไม่ขอพูดอะไรเยอะ พร้อมเปิดตัวตำนาน OG จากยุค 90 มารีฟอร์มใหม่กลายเป็น Nike Air Max 97 OG Silver Bullet (2022) ซึ่งมาพร้อมกับเอกลักษณ์ที่จะประกอบไปด้วยแถบสะท้อนแสง 3M reflective overlays ที่อยู่บนตัว Upper ซึ่งเป็น Mesh และลิ้นรองเท้าที่จัดเต็มเรื่องระบบ Cushioning เพื่อให้ความสบายสูงสุดตลอดเวลาสวมใส่ และยิ่งไปกว่านั้น ระบบที่ดีและโดดเด่นมาโดยตลอดอย่างเทคโนโลยี Air ที่จะช่วยลดแรงกระแทกเวลาเดินหรือวิ่ง ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้เลยว่า Nike Air Max 97 OG Silver Bullet (2022) นี้จะมีนวัตกรรมดังกล่าวเป็นแนวยาวตลอดตัวรองเท้าเลย ถ้าใครเป็นคนรักรองเท้าที่ใส่สบายหรืออยากหารองเท้าออกกำลังกายสักคู่ รองเท้าผ้าใบคู่นี้เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม ส่วนถ้าถามถึงเรื่องที่ว่าเจ้าตัวนี้จะมาทวงคืนบัลลังก์ของ Dunk แทนได้หรือไม่ จะกลับมาฮิตไหม ก็คงตอบได้ยาก อาจจะต้องรอดูกระแสกันต่อไป เป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่งที่จะหารองเท้าผ้าสักคู่ที่พอจะมาสู้รบปรบมือกับ Nike Dunk ในทศวรรษนี้ได้ แน่นอนว่าเทคโนโลยีก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับสนีกเกอร์เฮดส่วนใหญ่ แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย ก็คือสีสันและดีไซน์ สีไทเทเนียมและสีเงินยังครองใจผู้คนได้เหมือนเดิมหรือไม่ ก็ไม่มีใครทราบ การตื่นขึ้นมาของ OG ยุคเก่าจะเทียบทัน OG ยุคใหม่หรือไม่ ก็ยังไม่มีใครตอบได้ แต่ตราบใดที่สงครามยังไม่จบ ก็อย่าพึ่งนับศพทหารจะดีที่สุด